เมื่อวันที่ 22 มิ.ย. ดร.สุภัทร จำปาทอง ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยว่า ได้ประชุมร่วมกับ น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รมว.ศึกษาธิการ ในประเด็นการขับเคลื่อนนโยบายการจัดการศึกษา ซึ่งมีประเด็นพิจารณาคือเรื่องการเพิ่มเงินอุดหนุนรายหัวนักเรียน ซึ่งจะเป็นไปตามข้อตกลงกับสำนักงบประมาณ กระทรวงการคลัง ในการปรับเพิ่มเงินอุดหนุนรายหัวนักเรียนแบบขั้นบันไดในระยะเวลา 4 ปี  เช่น ในรายการเงินอุดหนุนเรียนฟรี 15 ปีอย่างมีคุณภาพ ที่ประกอบไปด้วย ค่าหนังสือเรียน ค่าอุปกรณ์การเรียน ค่าเครื่องแบบนักเรียน และค่ากิจกรรมพัฒนาคุณภาพผู้เรียน โดยในรายการของค่าอุปกรณ์การเรียน และค่าเครื่องแบบนักเรียน ให้เพิ่มขึ้นเป็น 20% แบบขั้นบันได ซึ่งจะไม่ใช่การขึ้นแบบรวดเดียวทั้งหมด ทั้งนี้การปรับเพิ่มเงินอุดหนุนรายหัวนักเรียน ไม่ได้มีการปรับเงินดังกล่าวมาตั้งแต่ปี 2553 โดยเป็นนโยบายของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่ต้องการลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา และเพิ่มโอกาสการเรียนรู้ของนักเรียนอย่างทั่วถึงและเท่าเทียม อีกทั้งให้สอดคล้องกับสภาพเศรษฐกิจในปัจจุบันด้วย 

ปลัด ศธ.กล่าวต่อไปว่า นอกจากนี้ยังได้หารือถึงการแก้ไขปัญหาหนี้สินครูและบุคลากรทางการศึกษา ซึ่งเตรียมจัดทำข้อเสนอเรื่องการจัดการโครงสร้างเรื่องการตัดเงินเดือนครู เพื่อไปใช้หนี้ให้ไม่เกิน 70% เพื่อให้ครูจะต้องมีเงินเหลือใช้อยู่ในบัญชี 30% โดยการจัดทำโครงสร้างเงินเดือนดังกล่าว จะเสนอให้คณะกรรมการกำกับการแก้ไขหนี้สินของประชาชนรายย่อย ที่มีนายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พลังงาน เป็นประธานพิจารณา เพื่อออกแนวปฏิบัติในภาพใหญ่ของการจัดการหนี้ และหลังจากนั้นจะนำมาออกเป็นแนวปฎิบัติในส่วนราชการของศธ.ต่อไป  เพราะการแก้ปัญหาหนี้สินส่วนหนึ่งจะต้องทำให้ครูมีรายได้เหลือใช้ ซึ่งจะต้องหักเงินเฉพาะหนี้ที่จำเป็นเท่านั้น โดยโครงสร้างการตัดเงินเดือนครูเพื่อไปใช้หนี้นั้น จะเป็นส่วนหนึ่งให้เกิดแนวปฏิบัติไปถึงการหักหนี้ของสหกรณ์ออมทรัพย์ครูด้วย เนื่องจากที่ผ่านมา พบว่าสหกรณ์จะหักเงินครูไปเกือบทั้งหมด