สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงเคียฟ ประเทศยูเครน เมื่อวันที่ 25 มิ.ย. ว่าสำนักงานสถานการณ์ฉุกเฉินแห่งรัฐของยูเครนรายงานว่า นับตั้งแต่สงครามกับรัสเซียปะทุเมื่อปลายเดือน ก.พ. ที่ผ่านมา ผู้เชี่ยวชาญของรัฐบาลเคียฟเก็บกู้วัตถุระเบิดตกค้างได้แล้ว “นับหมื่นลูก” บนพื้นที่ 620 ตารางกิโลเมตร โดยรวมถึงระเบิดประมาณ 2,000 ลูก ซึ่งมาจากการโจมตีทางอากาศของรัสเซีย

ผู้เชี่ยวชาญช่วยกันเก็บกู้ระเบิดตกค้างลูกหนึ่ง ซึ่งมีน้ำหนักประมาณ 500 กิโลกรัม และตกใส่หลังคาอพาร์ตเมนต์ ในเมืองคาร์คิฟ ทางตะวันออกของยูเครน


อย่างไรก็ตาม ยังมีพื้นที่อีกประมาณ 300,000 ตารางกิโลเมตร “ยังไม่ปลอดภัย” รอการตรวจสอบและการเก็บกู้วัตถุอันตรายเหล่านี้ และมีความเป็นไปได้มาก ว่าอาจต้องใช้เวลานานถึง 10 ปี เพื่อตรวจสอบและเก็บกู้วัตถุระเบิด ตลอดจนวัตถุอันตรายอื่นทั้งหมด โดยทีมผู้เชี่ยวชาญจะเน้นจัดการบริเวณโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ เขตชุมชน และถนนหนทางก่อน แล้วค่อยไปจัดการพื้นที่ตามป่า ซึ่งตรวจสอบยากที่สุด


ขณะที่นายเซอร์ฮีย์ ไกได ผู้ว่าการจังหวัดลูฮันสก์ ในภูมิภาคดอนบาส ทางตะวันออกของยูเครน กล่าวว่า ทหารยูเครนในเมืองซีวีโรโดเนตสก์ ซึ่งเป็นฐานที่มั่นขนาดใหญ่ที่สุดแห่งสุดท้ายของในแถบนี้ ได้รับคำสั่งให้ถอยร่นออกจากแนวรบด่านหน้า “แล้วไปประจำการที่ตำแหน่งใหม่” แม้ยังไม่มีความชัดเจน ว่าดำเนินการแล้วหรือไม่ กำลังดำเนินการ หรือเตรียมดำเนินการ แต่ผู้ว่าการจังหวัดลูฮันสก์ย้ำว่า ทหารยูเครนในพื้นที่ “จำเป็นต้องถอนกำลัง” เนื่องจากตกเป็นเป้าหมายของการโจมตีอย่างหนักโดยกองทัพรัสเซีย ตลอดระยะเวลา 1 เดือนที่ผ่านมา.

เครดิตภาพ : REUTERS