เมื่อวันที่ 25 มิ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯ กทม. พร้อมกลุ่มเพื่อนนักวิ่ง ได้รวมตัววิ่งออกกำลังกายและวิ่งไปทำงานบริเวณแยกลำสี ซึ่งเริ่มวิ่งตั้งแต่เวลา 05.30 น. โดยมีการไลฟ์สดผ่านเฟซบุ๊ก “ชัชชาติ สิทธิพันธ์ุ” ระหว่างการวิ่งด้วย โดยก่อนเริ่มวิ่งนั้น นายชัชชาติ กล่าวว่า วันนี้เปิดหน้ากากได้เพราะอยู่ในที่โล่งแจ้งระยะห่างเกิน 1 เมตร สามารถเลือกที่จะไม่ใส่หน้ากากได้ โดยวันนี้จะชวนเพื่อนนักวิ่ง วิ่งไปตรวจงานตามสัญญาที่ระบุว่าวันที่ 25 มิ.ย. จะคืนพื้นที่ถนน โดยเส้นทางการวิ่งเริ่มจากสวนลุมพินี ออกสะพานเขียว ถึงรัชดา เลี้ยวเข้าอโศก วิ่งยาวเข้าเพชรบุรีและวิ่งเข้าริมคลองไปยังแยกลำสาลี เพื่อตรวจงานบริเวณแยกลำสาลี รวม 14 กม. ส่วนขากลับจะนั่งเรือโดยสารในคลองแสนแสบ

ต่อมาเวลาประมาณ 07.30 น. นายชัชชาติพร้อมด้วย นายวิศณุ ทรัพย์สมพล รองผู้ว่าฯ กทม. นายนพ ชูสอน ผอ.เขตบางกะปิ และคณะวิ่งมาถึงบริเวณแยกลำสาลี โดยมีนายไทวุฒิ ขันแก้ว ผอ.สำนักการโยธา พ.ต.ท.ยิ่งยศ ฉลาดปรุ รอง ผกก.จร.สน.หัวหมาก ผู้รับเหมาและผู้ที่เกี่ยวข้องร่วมติดตามการทำงานและรายงานผลความคืบหน้าการดำเนินโครงการก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม และโครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง หลังจากเมื่อวันที่ 15 มิ.ย.ที่ผ่านมา ได้มีการเปิดการจราจรสะพานข้ามแยกรามคำแหงแล้วทำให้รถสามารถขึ้นจากบริเวณใกล้ๆ แยกลำสาลีวิ่งเข้าเมืองไปลงถนนพระราม 9 ได้ ส่วนบริเวณแยกลำสาลี จะคืนพื้นที่ถนนในวันที่ 25 มิ.ย.นี้

นายชัชชาติ กล่าวว่าการมาตรวจงานในวันนี้ เนื่องมาจากก่อนหน้านั้นเคยมาแล้วครั้งหนึ่ง ซึ่งบริเวณแยกลำสาลี เป็นจุดก่อสร้างรถไฟฟ้า 2 สาย คือสายเหลืองและสายสีส้ม อีกทั้งบริเวณนี้เป็นจุดที่มีการจราจรผ่านเยอะ ประกอบกับก่อสร้างรถไฟฟ้า 2 สาย ทำให้จำนวนเลนน้อยลง จึงพยายามเร่งรัดพื้นที่บริเวณนี้ โดยเริ่มเปิดสะพานลอยรามคำแหง เพื่อพยายามดันรถออกให้เร็วแล้ว ทั้งนี้จากการสำรวจพบว่ายังไม่มีการคืนพื้นที่ เวลาผู้รับเหมาก่อสร้างจะมีการกันเลนไว้ก่อสร้าง ทำให้ช่องจราจรลงจากปกติไป-กลับอย่างละ 3 เลน แต่พอมีการก่อสร้างเหลือช่องจราจรเพียงไป-กลับฝั่งละ 2 เลน จึงทำให้เกิดเป็นคอขวด จึงเป็นนโยบายที่ต้องคืนพื้นที่ให้เร็วที่สุด ซึ่งวันนั้นแจ้งว่า วันที่ 25 มิ.ย. คืนได้ วันนี้จึงลงมาดูอีกรอบก็ได้คืนพื้นที่ให้แล้วจริง เชื่อว่าการจราจรจะดีขึ้น แต่อย่างไรก็ตามอย่าลืมเรื่องทางม้าลายคนข้าม รวมทั้งดูท่อระบายน้ำ

นายชัชชาติ ยังกล่าวเพิ่มเติมว่าร่วมมือ ร่วมใจทำได้ มันไม่ได้ยากเกินหรอก แต่ขอให้เอาจริงเอาจัง ทุกอย่างมันอยู่กับผู้รับเหมาอยู่แล้ว ไม่ได้เสียงบประมาณเพิ่มขอให้เร่งรัดและคืนพื้นที่ให้เรา วันนี้ถือว่าเป็นภาคประชาชนตรวจงาน ส่วนพรุ่งนี้จะเป็นวันที่ราชการตรวจงาน

ขณะที่ พ.ต.ท.ยิ่งยศ กล่าวว่าพื้นที่นี้ใช้ระยะเวลาก่อสร้างมา 4 ปีกว่าแล้ว เส้นลำสาลีมีรถไฟฟ้าสายสีส้มและสีเหลืองตัดกันอยู่ และยังเป็นชุมทางที่จะระบายรถออกไปลาดพร้าว ศรีนครินทร์ เมื่อได้คืนพื้นผิวการจราจรเชื่อว่าจะดีขึ้น

ทางด้านนายไทวุฒิ กล่าวถึงแนวทางการดำเนินการใน 15 โครงการที่ยังล่าช้าอยู่ว่า พยายามเร่งรัดอันดับแรก คือ เรื่องการคืนพื้นที่ในแต่ละโครงการก่อสร้าง เพื่อให้มีการสัญจรได้อย่างสะดวก รวมถึงให้เพิ่มจุดทางม้าลาย ไฟสัญญาณเตือนตลอดแนวพื้นที่โครงการ ส่วนที่ 2 จะเร่งเปิดโครงการ เช่น โครงการทางลอดราชพฤกษ์ฯ จะเปิดใช้ในเดือน ก.ย.65 ส่วนโครงการทางลอดจรัญฯ และทางแยกไฟฉาย จะเปิดในเดือน ส.ค.65 ทั้งนี้ นายชัชชาติ ระบุทิ้งท้ายว่าวันที่ 1 ส.ค. และวันที่ 1 ก.ย.65 จะชวนกันวิ่งไปตรวจงานอีกรอบ จากนั้น นายชัชชาติพร้อมคณะได้เดินทางกลับด้วยการโดยสารเรือคลองแสนแสบ พร้อมตรวจอุปกรณ์ความปลอดภัยบนเรือ เช่น ชูชีพ เป็นต้น