เรียกได้ว่าเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์เป็นอย่างมาก หลังมีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งได้โพสต์ภาพลูกชายของตนเองหมดสติลงกับพื้น ซึ่งระบุข้อความว่า “ลูกชายเครียดหนักมาก งานส่ง 30 ชิ้นต่อสัปดาห์ก่อนสอบมิดเทอม ทำเสร็จไป 12 ชิ้น นอนดึกมา 2 เดือนแล้ว ซึ่งนอนวันละไม่ถึง 5 ชั่วโมง ครูสั่งงานอย่างบ้าคลั่งไม่ประสานกัน แถมให้โกหกพ่อแม่ว่าไปค้างเพื่อน แท้จริงบรรดาครูเป็นผู้จัดเตรียมเพื่อตอบนองนโยบายผู้บริหารคนใหม่ สั่งให้ไปถึงจังหวัดชลบุรีกันเอง ไม่ออกใบขออนุญาตจากโรงเรียน อ้างว่าเด็กขอไปกันเองไม่รับผิดชอบใดๆ ทั้งที่กำลังจะสอบมิดเทอม ปัดความรับผิดชอบกันมั่วไปหมด

เช้านี้ลูกชายเป็นลมล้มหัวฟาดพื้นผล CT แพทย์แจ้งว่าสมองบวมต้องเข้าไอซียูเพราะนอนน้อยมาตลอดใครจะรับผิดชอบ? การบ้านคือสิ่งที่ครูสอนไม่ได้และสอนไม่ทันเลยปัดมาให้ผู้ปกครองกับเด็กช่วยกันทำ แล้วเก็บเทอมละ 60,000 บาท ไปเพื่ออะไร แล้วใครจะรับผิดชอบที่ล้มหัวฟาดพื้น

ผมขออนุญาตคุณครูที่เกี่ยวข้องเปิดคลิปเสียงการทำการบ้านต่างจังหวัด โดยไม่ต้องบอกความจริงให้ผู้ปกครองฟังแลกเกรด 1.5 เปิดให้ประชาชนทั่วประเทศฟังเป็นตัวอย่างการซื้อเสียงในระบบประชาธิปไตยด้วยนะครับ และคลิปเสียงที่สอนเด็กแบบผิดๆ ด้วย #เป็นคนให้ได้ก่อนจะมาเป็นครูดีกว่ามั้ยครับ”

โดยต่อมาผู้ปกครองดังกล่าวได้โพสต์เพิ่มเติมเป็นแชตไลน์ ที่ระบุรายละเอียดของชิ้นงานที่ลูกชายยังไม่ได้ทำ ซึ่งเขียนข้อความว่า “มาดูการบ้านที่ครูสั่งนะครับ แค่ถึงก่อนน้องจะหมดสติหัวฟาดพื้น นี่หรือคือการปฏิบัติตามนโยบายลุงตู่ให้ลดการบ้านเด็กลงให้เด็กมีสุขภาพจิตที่ดี ไม่เห็นจะปฏิบัติตามนายกฯ ประยุทธ์ จันทร์โอชา ให้ครูลองทำดูสิจะทำเองได้มั้ย ต้องทำให้เสร็จภาย1สัปดาห์ก่อนสิ้นเดือน 24 มิถุนายน 2565 นี้นะครับใครทำได้ท่านอธิการน่าจะเพิ่มเงินเดือนครูให้หน่อย ที่โรงเรียนขายแต่มาม่าจนรวย”

อย่างไรก็ตามหลังจากที่โพสต์ดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไป ทำให้ชาวเน็ตเข้ามาคอมเมนต์ถึงประเด็นดังกล่าวเป็นจำนวนมาก โดยมีความคิดเห็นตรงกันว่าชิ้นงานมีมากเกินไป เบียดเบียนความสุขในชีวิตของเด็ก ทำให้ความสุขหายไปหมด ชีวิตมีแต่การบ้านและงานส่งครู ซึ่งกลัวว่าอาจจะทำให้เด็กเกิดภาวะเคลียดสะสม อยากให้ทางโรงเรียนออกมาชี้แจงกับประเด็นที่เกิดขึ้นโดยเร็วที่สุด…