จากกรณีกองทัพเมียนมาส่งเครื่องบินรบ MiG-29 จำนวน 1 ลำ บินรุกล้ำเข้ามายังน่านฟ้าไทย บริเวณชายแดน อ.พบพระ จ.ตาก เพื่ออ้อมไปยิงจรวดใส่ฝ่ายต่อต้านในฝั่งเมียนมา ประมาณ 4 รอบ ส่งผลให้โรงเรียนต้องประกาศหยุดเรียนฉุกเฉินนั้น เมื่อวันที่ 1 ก.ค. นายอัมพร พินะสา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) กล่าวว่า ตนได้รับรายงานเรื่องดังกล่าวแล้ว ซึ่งไม่มีเหตุการณ์อะไรรุนแรงจนต้องส่งผลกระทบนักเรียนและครู และยังมีความปลอดภัยทุกคน โดยคิดว่าภาพรวมการดูแลรักษาความปลอดภัยจะอยู่ที่กระบวนการของเจ้าหน้าที่ทหารในพื้นที่ แต่ในส่วนของสถานศึกษาโดยรอบเขตชายแดนตนได้สั่งการให้สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาเข้าไปกำกับดูแลนักเรียน ครู และบุคลากรทางการศึกษาแล้ว รวมถึงมีแผนเผชิญเหตุไว้อย่างรัดกุม เพราะสถานศึกษาที่ตั้งอยู่เขตชายแดนจะมีมาตรการเฝ้าระวังเหตุ เช่น การจัดทำหลุมหลบภัย เป็นต้น หรือหากได้รับการแจ้งเตือนจากหน่วยงานทหารในพื้นที่ให้รู้ล่วงหน้าก่อนโรงเรียนก็จะประกาศหยุดการเรียนการสอน

เลขาธิการ กพฐ. กล่าวต่อไปว่า ทั้งนี้เรื่องดังกล่าวที่เกิดขึ้นยังไม่กระทบต่อการจัดการเรียนการสอนของนักเรียน และได้รับทราบว่าโรงเรียนที่ได้รับผลกระทบวางมาตการแผนเผชิญเหตุไว้เป็นอย่างดี สำหรับโรงเรียนบริเวณตามตะเข็บแนวชายแดนเมียนมามีหลายแห่ง ซึ่งจากการติดตามข้อมูลในขณะนี้ ยังไม่มีประเด็นอะไรที่น่ากังวลใจ โดยหากมีเหตุการณ์ฉุกเฉินผู้อำนวยการโรงเรียนสามาถประเมินสถานการณ์และสั่งการให้หยุดเรียนได้ทันที โดยไม่จำเป็นต้องรอการสั่งการจากส่วนกลาง เนื่องจากบริเวณตามแนวชายแดนมีเจ้าหน้าที่กองกำลังทหารตำรวจ คอยส่งสัญญาณหากมีเหตุการณ์ใดเกิดขึ้น