“อัฟกานิสถาน” ประเทศที่เราคุ้นหูจากข่าวสงครามและการก่อการร้าย ในอีกมุมหนึ่งที่แห่งนี้คือแหล่งกำเนิดอารยธรรมที่รวบรวมผู้คนหลากหลายชาติพันธุ์เอาไว้ด้วยกัน เต็มไปด้วยร่องรอยการเปลี่ยนแปลงจากศาสนาพุทธในอดีตมาจนถึงอิสลามในปัจจุบัน เมื่อพฤษภาคม 2565 ทีม Saga Expeditions ได้ใช้เวลามากกว่า 1 เดือนในการออกสำรวจ 13 จังหวัดของอัฟกานิสถาน จะเป็นอย่างไรบ้างนั้น.. มาร่วมติดตามไปพร้อมกันครับ

รูปภาพนี้มี Alt แอตทริบิวต์เป็นค่าว่าง ชื่อไฟล์คือ S__5619949.jpg
ถ่ายรูปร่วมกับชาวพัชตุน ในมัสยิดกลาง เมืองเฮรัต ที่อยู่ห่างไม่ไกลจากประเทศอิหร่าน

เดินทางเข้าประเทศอัฟกานิสถานได้อย่างไร
การเดินทางไปอัฟกานิสถานง่ายกว่าที่เราคิด เราเดินทางไปขอวีซ่าที่เมืองดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ซึ่งใช้เวลาเพียง 1 วัน เนื่องจาก ณ ขณะนั้นเป็นช่วงก่อนที่ตาลีบันจะเข้ายึดอำนาจ ประเทศถูกแบ่งออกเป็นสองฝั่ง บางจังหวัดถูกควบคุมโดยฝั่งรัฐบาล บางจังหวัดถูกคุมโดยฝั่งตาลีบัน ด้วยความที่เราสามารถเดินทางได้เพียงแค่ในฝั่งของรัฐบาลเท่านั้น การเดินทางจึงต้องซิกแซกไปมา รถบ้าง เครื่องบินบ้าง ผสมกันไปเพื่อให้ได้เส้นทางที่ลงตัว

รูปภาพนี้มี Alt แอตทริบิวต์เป็นค่าว่าง ชื่อไฟล์คือ S__5619951-2.jpg
ชาวฮาซารา จะมีหน้าตาลักษณะคล้ายคนเอเชีย ส่วนมากนับถือศาสนาอิสลามนิกายชีอะห์

ข้อดีของการเดินทางที่นี่อย่างหนึ่งคือ ไม่ว่าใครก็สามารถดูเหมือนชาวอัฟกันได้ ยกเว้นคนผิวสี เนื่องจากอัฟกานิสถานประกอบไปด้วย 3 ชาติพันธุ์หลักๆ ได้แก่ ชาวพัชตุน ซึ่งมีหน้าตาคล้ายคลึงกับทางอาหรับและชาติตะวันตก ชาวทาจิก ที่มีหน้าตาเหมือนชาวเอเชียตอนกลาง และชาวฮาซารา ที่มีหน้าตาเหมือนพวกเราในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จึงไม่ยากนักที่เราจะดูกลมกลืนไปกับท้องถิ่น อย่างไรก็ตาม เราก็ต้องใส่ชุดพื้นเมืองที่เรียกว่า ชาวาร์คามิส (Shalwar kameez) ด้วย

รูปภาพนี้มี Alt แอตทริบิวต์เป็นค่าว่าง ชื่อไฟล์คือ S__5619959-1.jpg
ชาวฮาซารา จะมีหน้าตาลักษณะคล้ายคนเอเชีย ส่วนมากนับถือศาสนาอิสลามนิกายชีอะห์

อัฟกานิสถานมีที่เที่ยวที่ไหนบ้าง

รูปภาพนี้มี Alt แอตทริบิวต์เป็นค่าว่าง ชื่อไฟล์คือ S__5619957-2.jpg
มัสยิดสีน้ำเงิน สถานที่แสวงบุญสำคัญสำหรับชาวมุสลิมชีอะห์ ตั้งอยู่ใจกลางของ มะซารีชะรีฟ

มะซารีชะรีฟ (Mazar-i-sharif)
มะซารีชะรีฟ อยู่ทางตอนเหนือสุดของอัฟกานิสถาน และเป็นจุดหมายแรกเมื่อเรานั่งรถข้ามชายแดนมาจากอุซเบกิสถาน เมืองนี้มีชื่อเสียงโด่งดังมาจากมัสยิดสีฟ้าอันสวยงาม อีกทั้งเป็นจุดยุทธศาสตร์ทางการค้าที่สำคัญเนื่องจากเป็นจุดเชื่อมต่อกับโซนเอเชียกลาง

รูปภาพนี้มี Alt แอตทริบิวต์เป็นค่าว่าง ชื่อไฟล์คือ S__5619943-2.jpg
มัสยิดสีน้ำเงิน สถานที่แสวงบุญสำคัญสำหรับชาวมุสลิมชีอะห์ ตั้งอยู่ใจกลางของ มะซารีชะรีฟ

เราเข้าพักในโรงแรมกลางเมืองที่มีทั้งรั้วและทหารคุมอยู่อย่างแน่นหนา เนื่องจากมะซารีชะรีฟ ถือเป็นเมืองที่ค่อนข้างปลอดภัยในระดับหนึ่ง เราจึงสามารถออกมาเดินซื้อของฝากในตลาดได้อย่างสะดวก ทั้งพรมและสร้อยแหวนต่างๆ เป็นของฝากที่ขึ้นชื่อของที่นี่

รูปภาพนี้มี Alt แอตทริบิวต์เป็นค่าว่าง ชื่อไฟล์คือ S__5619954.jpg
วิวของเทือกเขา Hindu Kush ระหว่างเดินทางจาก มะซารีชะรีฟไปยังคาบูล

คาบูล (Kabul)
บินข้ามมาที่คาบูล เมืองหลวงของอัฟกานิสถาน ตัวเมืองพลุกพล่านไปด้วยผู้คนและการจราจรที่ติดขัดตลอดเวลา สิ่งแรกที่เราสังเกตเมื่อมองขึ้นฟ้าได้คือ spy balloon บอลลูนสีขาวขนาดใหญ่ที่คอยตรวจสอบความเคลื่อนไหวของคนทั้งเมือง เพื่อป้องกันการก่อการร้ายต่างๆ เราจะเห็นบอลลูนนี้ได้ในเมืองหลักๆอย่างเช่น คาบูล มะซารีชะรีฟ และกันดาฮาร์

รูปภาพนี้มี Alt แอตทริบิวต์เป็นค่าว่าง ชื่อไฟล์คือ S__5619958.jpg
ทางหลวง คาบูล-จาราราบัด ทางหลวงที่สำคัญของอัฟกานิสถานที่ตัดผ่านช่องเขา ตัง-อี การู หนึ่งในทางหลวงที่อันตรายที่สุดในโลก เพราะด้วยช่องทางที่ค่อนข้างแคบประกอบกับวินัยในการขับรถ

คาบูล เป็นเมืองที่มีความเก่าแก่และทันสมัยผสมผสานกันไป ได้ช่วงกลางวันเราสามารถไปเดินชอปปิงได้ที่ chicken street ขับรถรอบ TV mountain เพื่อชมวิวเมือง ทานข้าวพักผ่อนริมทะเลสาบ Qargha

รูปภาพนี้มี Alt แอตทริบิวต์เป็นค่าว่าง ชื่อไฟล์คือ S__5619962.jpg
คุณลุงฮาจี ชาวอัฟกานิสถานเชื้อสายทาจิก ที่ยังคงใช้กล้องที่มีอายุมากกว่า 60 ปี ในการถ่ายรูปของพวกเรา

ถ่ายภาพด้วยกล้อง Kamra-e-faoree กล้องที่มีลักษณะเหมือนกล่องไม้อายุร้อยกว่าปี ได้รูปออกมาแบบคลาสสิกสุดๆ และในช่วงกลางคืนก็ยังมีสถานที่ร้านอาหารและขนมมากมาย รวมไปถึงลานโบว์ลิ่งอีกด้วย

รูปภาพนี้มี Alt แอตทริบิวต์เป็นค่าว่าง ชื่อไฟล์คือ S__5619960-1.jpg
“บามิยัน” อดีตพระพุทธรูปที่สูงที่สุด สร้างเมื่อ 1,500 กว่าปีที่แล้ว ก่อนที่จะถูกรัฐบาลตาลีบันทำลายลงด้วยระเบิดในปี 2021
รูปภาพนี้มี Alt แอตทริบิวต์เป็นค่าว่าง ชื่อไฟล์คือ S__5619945.jpg
บามิยัน อดีตพระพุทธรูปที่สูงที่สุดในรูป สร้างเมื่อ 1500 กว่าปีที่แล้ว ก่อนที่จะถูกรัฐบาลตาลีบันทำลายลงด้วยระเบิดในปี 2021
รูปภาพนี้มี Alt แอตทริบิวต์เป็นค่าว่าง ชื่อไฟล์คือ S__5619940.jpg
บามิยัน อดีตพระพุทธรูปที่สูงที่สุดในรูป สร้างเมื่อ 1500 กว่าปีที่แล้ว ก่อนที่จะถูกรัฐบาลตาลีบันทำลายลงด้วยระเบิดในปี 2021

บามิยัน-เดคุนดิ (Bamiyan-Daykundi)
จากคาบูลเราใช้เวลา 1 วัน นั่งรถมายังบามิยัน ซึ่งถือเป็นหนึ่งใน Hazarajat หรือดินแดนของชาวฮาซารา เป็นที่ตั้งของพระพุทธรูปบามิยัน ที่ถูกแกะสลักเข้าไปในผาหิน มีความสูงกว่า 55 เมตร แต่ก็น่าเสียดายที่ถูกกลุ่มตาลีบันทำลายไปในปี 2011 ณ ขณะนั้น บามิยัน ถือเป็นเมืองที่ปลอดภัยที่สุดในประเทศ โอบล้อมไปด้วยภูเขา ในตัวเมืองบรรยากาศสบายๆ ผู้คนยิ้มแย้มและไม่ค่อยเคร่งเรื่องการแต่งกายมากนัก

รูปภาพนี้มี Alt แอตทริบิวต์เป็นค่าว่าง ชื่อไฟล์คือ S__5619961-1.jpg
โฮมสเตย์ในอัฟกานิสถานที่จังหวัด เดคุนดี ระหว่างกำลังทำแป้งที่เรียกว่า นอน

สถานที่ที่จะพลาดไม่ได้เมื่อมาถึงก็คืออุทยานแห่งชาติ Band-e-amir และทะเลสาบสีฟ้าสดใจจนเสมือนภาพวาด เหมาะแก่การเดินเขา ถ่ายภาพ ไปจนถึงสกีในฤดูหนาว

รูปภาพนี้มี Alt แอตทริบิวต์เป็นค่าว่าง ชื่อไฟล์คือ S__5619965.jpg
ทะเลสาบบันด์ อี อาเมีย หนึ่งในสถานที่ทางธรรมชาติที่สวยงามที่สุดของประเทศอัฟกานิสถาน ตั้งอยู่ไม่ไกลจากเมืองบามิยัน

จากบามิยันเราใช้เวลาอีก 2 วันนั่งรถเลาะไปตามไหล่เขาไปยังเดคุนดิ อีกจังหวัดหนึ่งใน Hazarajat ที่แทบจะไม่มีคนนอกเข้ามาเยือนเลย เราแวะพักตามเมืองเล็กๆ ระหว่างทางที่มี Caravansarei หรือโรงแรมในสมัยก่อนที่ผู้สัญจรไปมาจะสามารถเข้ามาทานอาหารและนอนพักฟรี หรือจ่ายเงินเพื่อเช่าที่นอนในห้องได้ในราคาประมาณ 100 บาทต่อคืน เป็นบรรยากาศที่ไม่น่าเชื่อว่ายังมีอยู่ในสมัยนี้ บ้านเมืองส่วนใหญ่อยู่ในหุบเขาที่ห่างไกล ชาวบ้านประกอบอาชีพทำไร่ทำนา เป็นส่วนหนึ่งของอัฟกานิสถานที่สงบอย่างแปลกหูแปลกตา ชาวบ้านบางคนได้บอกเราว่า เขาไม่รู้เลยว่ามีเหตุการณ์ไม่สงบอะไรเกิดขึ้นในประเทศบ้าง

รูปภาพนี้มี Alt แอตทริบิวต์เป็นค่าว่าง ชื่อไฟล์คือ S__5619966.jpg
มัสยิดในเมืองกันดาฮาร์ เมืองตอนใต้ที่สำคัญในอัฟกานิสถานและเป็นฐานที่มั่นสำคัญของรัฐบาลตาลีบัน

กันดาฮาร์ (Kandahar)
กันดาฮาร์ ถือว่าเป็นหนึ่งในจังหวัดที่อันตรายที่สุดในทริป ขึ้นชื่อว่าเป็นบ้านเกิดของกลุ่มตาลีบัน และเป็นถิ่นของชาวพัชตุน เพื่อความปลอดภัย เราสามารถใช้เวลาที่นี่ได้เพียงแค่ 2 วัน 1 คืน โดยการบินไป-กลับจากเมืองคาบูล

รูปภาพนี้มี Alt แอตทริบิวต์เป็นค่าว่าง ชื่อไฟล์คือ S__5619947-1.jpg
ชุด Burqa สีน้ำเงิน-หนึ่งในสัญลักษณ์ของผู้หญิงในอัฟกานิสถาน

ภูมิประเทศทางใต้รอบๆกันดาฮาร์ส่วนใหญ่เป็นทะเลทราย อากาศร้อนและแห้ง การเดินทางในตัวเมืองต้องเป็นไปอย่างมิดชิด โดยเฉพาะการแต่งกายของผู้หญิง ที่จะต้องใส่ Niqab หรือ Burqa ปกคลุมทั้งศรีษะและใบหน้า

รูปภาพนี้มี Alt แอตทริบิวต์เป็นค่าว่าง ชื่อไฟล์คือ S__5619955.jpg
ร้านขายชุด Burqa ในเมืองเฮรัต

บรรยากาศรอบตัวเมืองค่อนข้างเคร่งขรึม แต่ก็ยังได้รับการต้อนรับอย่างดีจากผู้คนท้องถิ่นที่เราพบเจอ เราได้เดินทางไปเยี่ยมชม Chil Zena ภูเขาเล็กๆที่เป็นทั้งป้อมปราการและจุดตะวันตกสุดของเมือง Red mosque of Kandahar มัสยิดสีขาว-แดง ซึ่งเป็นสถานที่ที่ผู้นำตาลีบันหลายคนมาสวดมนต์ในวันศุกร์

รูปภาพนี้มี Alt แอตทริบิวต์เป็นค่าว่าง ชื่อไฟล์คือ S__5619956.jpg
เด็กชาวนูริสถาน ที่อาศัยอยู่ทางตอนเหนือของประเทศ ส่วนมากคนแถวนี้จะมีหน้าตาคล้ายคลึงกับชาวยุโรป

นูริสถาน (Nuristan)
นูริสถาน ถือเป็นดินแดนลี้ลับแห่งอัฟกานิสถาน ในช่วงสิบกว่าปีที่ผ่านมาไม่เคยมีนักเดินทางต่างชาติสามารถเข้าไปได้เลย เนื่องจากตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศและใช้เวลาถึง 5 วันเพื่อเดินทางไป-กลับจากกรุงคาบูลโดยรถยนต์ นูริสถานเป็นบ้านเกิดชาว Nuristani หรือ Kafiristani กลุ่มชาติพันธุ์ที่มีหน้าตาคล้ายคลึงกับชาวยุโรปมาก บางคนตาสีฟ้า-เขียว บางคนผมสีทอง-น้ำตาล ผู้เชี่ยวชาญบางกลุ่มสันนิษฐานว่ามีเชื้อสายมาจาก Alexander the Great นักรบผู้เดินทางมาจากทางยุโรปตะวันออก บางกลุ่มก็กล่าวว่ามีเชื้อสายจากชาวอารยันที่มีต้นกำเนิดจากทางอิหร่านและอินเดียตอนเหนือ ผู้คนที่นี่ถือว่าเป็นมุสลิมใหม่ที่เพิ่งเปลี่ยนมานับถืออิสลามได้เพียงแค่ประมาณ 100 ปีที่ผ่านมาเท่านั้นเอง ชาวบ้านจึงค่อนข้างเคร่งศาสนา โดยเฉพาะผู้หญิงที่ปิดหน้าตาไม่ให้เราเห็นแม้แต่นิดเดียว เส้นทางการเดินทางไปนูริสถานของเราประกอบไปด้วย Kabul-Laghman-Jalalabad-Kunar-Nuristan ซึ่งเต็มไปด้วยจุดตรวจที่แน่นหนาและถนนแคบๆ เลาะไปตามสันเขา นูริสถานเปรียบได้ว่าเป็นสวิตเซอร์แลนด์แห่งเอเชีย หมู่บ้านที่นี่ตั้งอยู่บนหน้าผา สร้างด้วยไม้ มีลำธารที่ใสสะอาด มีวัวและแพะเดินเล่นไปมาเสมือนกับอยู่ยุโรปเลยทีเดียว

รูปภาพนี้มี Alt แอตทริบิวต์เป็นค่าว่าง ชื่อไฟล์คือ S__5619964-1.jpg
ทุ่งดอกฝิ่นในจัดหวัดคูนา-อัฟกานิสถาน มีสัดส่วนในการผลิตเฮโรอีนมากกว่าร้อยละ 90 ของการผลิตเฮโรอีนทั้งโลก ก่อนที่รัฐบาลตาลีบันจะประกาศควบคุมในปีนี้

“อัฟกานิสถาน” เป็นประเทศที่เหมาะกับนักเดินทางทุกประเภท ทั้งผู้ที่สนใจในธรรมชาติ การถ่ายภาพ และผู้คน โดยนักเดินทางควรมีความเข้าใจในประเพณีและวัฒนธรรมเป็นอย่างดี อัฟกานิสถานเป็นจุดหมายที่มีเอกลักษณ์และน่าค้นหามากที่สุดแห่งนึงของโลก เราสามารถมาเรียนรู้เรื่องราวที่แตกต่างจากสิ่งที่เราเห็นในสื่อต่างๆ วิถีชีวิตของผู้คนที่ถูกสืบทอดและรักษามานับหลายพันปีได้อย่างดี..

ส่วนในครั้งหน้า เราจะพาทุกท่านไปท่องโลกที่ไหนกันบ้าง อย่าลืมกลับมาติดตามการผจญภัยของ ทีม Saga Expeditions ได้ทุกวันอาทิตย์ที่ 1 และ 3 ของเดือนกันนะครับ..

พาท่องโลกโดย : Saga Expeditions