เมื่อวันเสาร์ที่ 2 ก.ค. 2565 เครื่องบินโดยสารของสายการบินเอมิเรตส์ลงจอดที่สนามบินเมืองบริสเบน ออสเตรเลีย หลังจากที่บินอยู่บนท้องฟ้ามาเป็นเวลาเกือบ 14 ชั่วโมง โดยมีรูโหว่ขนาดใหญ่อยู่ด้านข้างตัวเครื่อง

เครื่องบินดังกล่าวเป็นเครื่องบินโดยสารรุ่น Airbus A380-800 ผู้โดยสารและลูกเรือหลายคนแจ้งว่าได้ยินเสียงดังมากจากนอกเครื่องหลังจากที่เครื่องบินขึ้นจากท่าอากาศยานนานาชาติดูไบได้ไม่นานนัก

หลังจากนั้น นักบินประจำเครื่องติดต่อไปยังท่าอากาศยานบริสเบน เพื่อขอให้เตรียมรับมือสถานการณ์ฉุกเฉินที่สนามบิน โดยคิดว่าเครื่องมีปัญหายางล้อระเบิด

แต่เมื่อเครื่องบินลงจอด ทีมวิศวกรจึงมองเห็นรูโหว่ขนาดใหญ่ที่บริเวณใกล้กับแฟริ่งของปีกเครื่องบินช่วงที่ติดกับลำตัวเครื่อง ซึ่งเป็นชิ้นส่วนที่ช่วยลดแรงต้านอากาศ 

เครื่องบินลำดังกล่าวเพิ่งมีอายุใช้งานเพียง 3 ปี จากรายงานการตรวจสอบสันนิษฐานว่ารูที่เกิดขึ้นอาจเป็นเพราะสลักล้อหน้ามีปัญหา

ผู้โดยสารบางรายถ่ายภาพและคลิปของเครื่องบินลำดังกล่าวโพสต์ลงในโซเชียลมีเดีย ซึ่งกลายเป็นไวรัลอย่างรวดเร็ว กระนั้น ในแถลงการณ์ของสายการบินก็ระบุเพียงว่า เที่ยวบินนี้ ‘เกิดความผิดพลาดทางเทคนิค’ 

ล้อข้างหนึ่งของเครื่องบินแตกและฉีกขาดระหว่างทาง และส่งผลกระทบทำให้เกิดความเสียหายเพียงเล็กน้อยกับพื้นผิวด้านนอกของลำตัวเครื่อง แต่ไม่มีผลต่อโครงสร้างหรือส่วนลำตัวของเครื่องบิน เที่ยวบินดังกล่าวลงจอดที่บริสเบน และผู้โดยสารลงจากเครื่องได้ตามกำหนดเวลา

ทีมวิศวกรได้ทำการเปลี่ยนแผงแฟริ่งที่เสียหายและตรวจสอบซ้ำร่วมกับเจ้าหน้าที่ของบริษัทแอร์บัส และจากหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้อง หลังจากนั้น เครื่องบินลำดังกล่าวบินกลับไปยังดูไปเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาโดยไม่มีปัญหาใด ๆ 

แหล่งข่าว : nzherald.co.nz

เครดิตภาพ : Twitter/aviation_2500