บรรยากาศหุ้นไทยวันที่ 6 ก.ค. 65 เคลื่อนไหวในแดนลบตลอดทั้งวัน ตามทิศทางตลาดหุ้นต่างประเทศ และนักลงทุนขายหุ้นพลังงานออกมาตามราคาน้ำมันที่ปรับลดลง และนักลงทุนบางกลุ่มกังวลว่า เศรษฐกิจสหรัฐจะเข้าสู่ภาวะถดถอยจากอัตราเงินเฟ้อที่สูงและการขึ้นดอกเบี้ยอาจทำให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจชะลอตัว แต่ในช่วงท้ายตลาดพบว่า มีการกลับเข้าซื้ออีกครั้ง ส่งผลให้ดัชนีปิดที่ 1,541.79 จุด เพิ่มขึ้น 0.49 จุด หรือ 0.03% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 72,117.55 ล้านบาท ส่วนตลาดเอ็มเอไอ ปิดที่ 561.98 จุด ลดลง 6.11 จุด หรือ 1.08% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 2,715.15 ล้านบาท
นายศรพล ตุลยะเสถียร รองผู้จัดการ หัวหน้าสายงานวางแผนกลยุทธ์องค์กร ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) กล่าวว่า ในช่วงเดือน มิ.ย. ที่ผ่านมา ผู้ลงทุนต่างชาติมีการขายหุ้นออกสุทธิ 29,990 ล้านบาท ซึ่งเป็นเดือนแรกหลังจากซื้อสุทธิต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 6 และดัชนีหุ้น ปิดที่ 1,568.33 จุด ปรับลดลง 5.7% มีมูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยวันละ 71,693 ล้านบาท ลดลง 26.2% จากเดือนเดียวกันของปีก่อน จากผู้ลงทุนกังวลเกี่ยวกับสภาวะเงินเฟ้อที่สูงกว่าค่าเฉลี่ยในรอบหลายสิบปี อีกทั้งการขยายตัวของเศรษฐกิจโลกเติบโตในระดับต่ำ มีความเสี่ยงทำให้เกิดภาวะเศรษฐกิจซบเซา
หลักทรัพย์ที่มีการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับ ได้แก่
1.ปตท.สผ. ปิดที่ 155.50 บาท ลดลง -7.50 บาท
2.แจส ปิดที่ 2.64 บาท ลดลง -0.40 บาท
3.บีดีเอ็มเอส ปิดที่ 26.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.75 บาท
4.บ้านปู ปิดที่ 12.20 บาท ลดลง -0.30 บาท
5.ธ.กสิกรไทย ปิดที่ 147.50 บาท ไม่เปลี่ยนแปลง