ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ชาวบ้านในพื้นที่บ้านหลักหิน ต.บักดอง อ.ขุนหาญ จ.ศรีสะเกษ ต่างพากันสงสัยถึงโครงการก่อสร้างปรับปรุงถนนทางหลวง มีการตีเส้นจราจรซิกแซ็ก ลักษณะแปลกตา และไม่เคยพบเห็นมาก่อน โดยเส้นถนนดังกล่าว มีการทาสีเส้นขอบถนนและเส้นแบ่งช่องทางจราจร เป็นลักษณะหยักไปมา บริเวณใกล้ทางม้าลาย ทั้งสองข้างฝั่งถนน ทั้งที่ควรจะเป็นแบบมาตรฐานคือเป็นเส้นตรงขาวทึบ เหมือนที่เห็นตามท้องถนนทั่วไป ส่งผลทำให้ชาวบ้านและผู้สัญจรผ่านไปมาที่พบเห็นต่างพากันฮือฮา มึนงง สงสัย และแสดงความคิดเห็นวิพากษ์วิจารณ์กันไปต่างๆ นานาเป็นจำนวนมาก ว่าการตีเส้นจราจรดังกล่าว เป็นไปตามแบบหรือระเบียบกฎหมายหรือไม่

นายรพี ตั้งทรงสุวรรณ์ ผอ.แขวงทางหลวงศรีสะเกษที่ 2 เปิดเผยว่า กรณีที่มีการตีเส้นจราจรเป็นลักษณะเส้นซิกแซ็กหยักไปมาบนพื้นถนน ยังคงถือว่าเป็นเรื่องแปลกใหม่ที่เกิดขึ้นในประเทศไทย แต่ก็มีหลายประเทศที่นำรูปแบบนี้มาใช้ในการแก้ไขปัญหาในการลดอุบัติเหตุ เพื่อเป็นสัญลักษณ์เป็นการเตือนให้ผู้ขับขี่ทราบว่าข้างหน้าจะมีทางม้าลาย และลดความเร็วลง ให้เกิดความตระหนักรู้ อีกส่วนหนึ่งก็คือเพื่อจะได้ไม่มีรถมาจอดบดบังระหว่างผู้ขับขี่กับคนเดินข้ามก็จะปลอดภัยขึ้น ในรูปแบบของการตีเส้นซิกแซ็กดังกล่าวนี้ เป็นการนำเอารูปแบบของต่างประเทศ มาศึกษาเพื่อดูพฤติกรรมความเร็วของรถในประเทศไทย เพื่อปรับใช้ให้เข้ากับพื้นที่ ในมุมของคนเดินข้ามจะข้ามอย่างไรให้ปลอดภัย จะข้ามอย่างไรให้อยู่บนผิวของถนนสั้นที่สุด เป็นรูปแบบที่นำมาทำเป็นโครงการนำร่องที่ จ.ศรีสะเกษ เป็นแห่งแรก

โดยในระยะต่อไปก็จะได้ขยายผลไปยังจังหวัดอื่นๆด้วย ในระหว่างนี้จะทำการเก็บข้อมูลก่อนทำการปรับปรุง ติดตั้งอุปกรณ์ความปลอดภัยเพิ่มเติมอีก ไม่ว่าจะเป็นป้าย ไฟฟ้าส่องสว่าง หลักล้มลุก ตัวอุปกรณ์นำทางต่างๆ ซึ่งพอแล้วเสร็จทั้งหมด และเปิดใช้งานเต็มรูปแบบจริงๆ เราก็จะเริ่มทำการสำรวจข้อมูล ความคิดเห็น แล้วเก็บสถิติความเร็วในการเข้าสู่ทางข้ามอีกครั้งเพื่อประเมินผล ถ้าทุกอย่างลงตัวก็คิดว่าจะทำให้ผู้ขับขี่ตระหนักรู้ว่าเมื่อเห็นเส้นซิกแซ็กดังกล่าวแล้ว จะต้องลดความเร็วลง และรู้ว่าเป็นสัญลักษณ์ก่อนถึงทางม้าลาย จากนั้นก็จะได้ขยายผลไปทั่วประเทศ

อย่างไรก็ตามตนคิดว่า จ.ศรีสะเกษ โชคดี ที่ได้เป็นโครงการนำร่องของกรมทางหลวง อยากให้พี่น้องประชาชนทุกคนอดใจรออีกนิด เพราะยังไม่ได้มีการติดตั้งอุปกรณ์ครบ ซึ่งจะมีการติดตั้งป้าย และจะเป็นป้ายพิเศษจากป้ายทางข้ามทั่วไป เมื่อแล้วเสร็จก็จะได้มีการประชาสัมพันธ์ตามสื่อต่างๆทั้งทางออนไลน์ หรือสื่อสิ่งพิมพ์ หวังว่าสิ่งที่ทำนี้จะทำให้พี่น้องประชาชนชาวศรีสะเกษ ได้รับความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนนมากขึ้น ช่วยกันคิดถึงด้วยว่าอุบัติเหตุทางถนนเป็นเรื่องสำคัญในชีวิต ก็จะได้อยู่ร่วมกันอย่างปลอดภัยต่อไป