กรณีพบศพหญิงสาว อายุประมาณ 30-40 ปี ถูกทุบหน้าฆ่าโหด ถอดเสื้อมัด มือไพล่หลัง ห่อผ้าทิ้งขึ้นอืดในพงหญ้าริมถนนสายนาไคร้-มุกดาหาร บ้านขุมขี้ยาง อ.กุฉินารายณ์ จ.กาฬสินธุ์ พื้นที่ สภ.กุฉินารายณ์ เมื่อวันที่ 3 ส.ค.ที่ผ่านมา โดยหลังเกิดเหตุ พล.ต.ต.สมนึก มิควาฬ ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ สั่งการให้ชุดสืบสวน เร่งลงพื้นที่ตรวจสอบผู้ตายเป็นใคร และติดตามคนร้าย พบว่าถูกฆ่าจากที่อื่นแล้วนำศพมาทิ้งอำพรางคดี ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ฆาตกรรมสะเทือนขวัญ! จับเหยื่อสาวถอดเสื้อผ้ามัดมือไพล่หลัง โหดทุบหน้ายุบ

เกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 5 ส.ค. พ.ต.อ.บัณฑิต สิงหประชา ผกก.สภ.กุฉินารายณ์ รายงานความคืบหน้าคดีล่าสุด สืบพบเบาะแสจากประชาชนใน ต.หนองสูงใต้ อ.หนองสูง จ.มุกดาหาร เขตรอยต่อ ต.กุดหว้า อ.กุฉินารายณ์ จ.กาฬสินธุ์ ว่า มีญาติเป็นหญิงหายตัวออกจากบ้าน 7 วัน จึงส่งชุดสืบสวนลงพื้นที่ตรวจสอบ พร้อมนำภาพรูปพรรณผู้เสียชีวิตให้ดู ญาติยืนยันว่าเป็น น.ส.วาสนา (สงวนนามสกุล) อายุ 41 ปี ช่างเสริมสวย ใน อ.หนองสูง และจากการตรวจสอบภาพจากเฟซบุ๊กผู้ตาย โพสต์ล่าสุดพบหลักฐานเสื้อแขนกุดสีชมพู บริเวณหน้าอกมีข้อความภาษาอังกฤษ Note to Self…และ “RELAK” ซึ่งตรงกับเสื้อที่คลุมศีรษะผู้เสียชีวิต

สืบสวนเบื้องต้นญาติผู้ตายสงสัยคือ นายรณรัฐ (สงวนนามสกุล) อายุ 50 ปี เจ้าพนักงานสัตวบาลสำนักงานปศุสัตว์อำเภอแห่งหนึ่งใน จ.มุกดาหาร เนื่องจากทั้งสองต่างเคยมีครอบครัวแล้วมาคบหาเป็นสามีภรรยากันแบบไม่จดทะเบียนได้ประมาณ 1 ปี มีพฤติกรรมหึงหวง ทะเลาะเบาะแว้งกับผู้ตายบ่อยครั้ง รวมถึงเป็นคนสุดท้ายที่อยู่กับผู้ตายก่อนหายตัวไป และยังคงทำงานตามปกติเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น จึงออกติดตามกระทั่งมาพบตัวขณะขับรถมาล้างบริเวณหน้า สภ.หนองสูง จึงเชิญตัวมาสอบปากคำ

เบื้องต้น นายรณรัฐ รับสารภาพว่า ก่อเหตุฆ่า น.ส.วาสนา ภรรยาจริง โดยวันเกิดเหตุวันที่ 31 ก.ค.ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 4 ทุ่ม ได้โทรศัพท์นัดผู้ตายออกมาพูดคุยตกลงกันที่ศาลาริมทาง ถนนสายนาไคร้-มุกดาหาร บริเวณบ้านขุมขี้ยาง ต.กุดหว้า อ.กุฉินารายณ์ ใกล้กับจุดทิ้งศพ โดยให้ผู้ตายเข้ามานั่งพูดคุยกันในรถ ก่อนมีการปากเสียงทะเลาะกันเรื่องหึงหวง เพราะที่ผ่านมาโทรศัพท์ผู้ตายมีเบอร์โทรฯ แปลกๆ เข้ามาหาหลายครั้ง อีกทั้งยังหาว่าตนมีผู้หญิงอื่น ด้วยความโมโหจึงบีบคอแล้วลากลงรถเตะเข้าที่ใบหน้า ก่อนใช้ค้อนทุบหัวจนแน่นิ่ง จากนั้นนำผ้าห่มมาคลุมแล้วใช้เชือกในรถมามัดนำไปทิ้งบริเวณพงหญ้าข้างถนนตรงจุดพบศพ กระทั่งมาถูกตำรวจจับกุม เจ้าหน้าที่จึงนำตัวส่งพนักงานสอบปากคำอย่างละเอียดอีกครั้ง และจะนำไปทำแผนประกอบรับสารภาพ ก่อนส่งดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.