เมื่อวันที่ 5 ส.ค. พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว ผบก.ปปป. พ.ต.อ.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ รอง ผบก.ปปป. พ.ต.อ.ณัฐณวิทย์ สิทธราภิรมย์ ผกก.1บก.ปปป. พ.ต.อ.ศราวุธ ศรีสุขศิริพันธ์ ผกก.2 บก.ปปป. พ.ต.อ.เกรียงไกร ขวัญไตรรัตน์ ผกก.(สอบสวน) บก.ปปป. นายภูมิวิศาล เกษมศุข รองเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท. ในฐานะหัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการต่อต้านการทุจริต นำกำลังกันจับกุม นพ.วิชัย รัตนภัณฑ์พาณิชย์ อายุ 53 ปี ผอ.รพ.บางกรวย จ.นนทบุรี ขณะกำลังรับเงินสด 93,000 บาท จากผู้รับเหมาระบบคอมพิวเตอร์ของโรงพยาบาล ซึ่งเป็นเงินที่เจ้าหน้าที่ใช้ทำการล่อจับ โดยจับกุมตัวได้ที่ห้องทำงานของผู้ต้องหาในโรงพยาบาล พร้อมรวบรวมพยานหลักฐานและเอกสารจำนวนหนึ่งกลับมาตรวจสอบ

พล.ต.ต.จรูญเกียรติ เปิดเผยว่า การจับกุมครั้งนี้ สืบเนื่องผู้เสียหาย ได้ร้องทุกข์กับทางสำนักงาน​ ป.ป.ท. ให้ช่วยตรวจสอบพฤติการณ์ของ​ ผอ.คนดังกล่าว หลังจากที่ผู้เสียหายเข้าไปประมูลจัดซื้อจัดจ้างติดตั้งระบบคอมพิวเตอร์ภายในโรงพยาบาล มูลค่ากว่า 280,000 บาท แต่เจ้าตัวมีการเรียกรับเงินส่วนต่าง 15% ก่อนที่จะขอขยับเพิ่มเป็น 35% หรือประมาณ 93,000 บาท ผู้เสียหายเห็นว่า เป็นเรื่องที่รับไม่ได้ เพราะจะทำให้ทางผู้รับเหมาขาดทุนเป็นจำนวนมาก จึงตัดสินใจเข้าแจ้งความกับ บก.ปปป. จากนั้นได้ทำการสืบสวนสอบสวนจนทราบว่า จะมีการนัดมอบส่งเงินกันในวันนี้ จึงนำเงินของกลางที่ทำสัญลักษณ์ไว้ไปมอบให้ที่โรงพยาบาลและเมื่อผู้อำนวยการรับเงินของกลางแล้วเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงแสดงตัวเข้าจับกุม

ขณะที่ นายภูมิวิศาล กล่าวว่า สำนักงาน ป.ป.ท. ได้รับการร้องเรียนผ่านทางสายด่วน 1206 จากผู้เสียหาย จึงทำการตรวจสอบเบื้องต้นและประสานให้ทางตำรวจรับเรื่องดังกล่าวเป็นคดี ซึ่งผู้เสียหายก็พร้อมเข้าแจ้งความ ก่อนที่จะร่วมกันวางแผนเข้าจับกุม ซึ่งจากนี้จะเร่งรวบรวมข้อมูลขยายผลตามเรื่องเส้นทางการเงิน และข้อมูลเกี่ยวข้องกับการทุจริตต่างๆให้กับทางตำรวจ ทั้งนี้ ขอฝากไปถึงผู้ประกอบการที่อาจถูกข้าราชการเรียกรับผลประโยชน์ในรูปแบบต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นข้าราชการในระดับใดก็ตาม สามารถแจ้งเรื่องร้องเรียนทางสายด่วน 1206 ได้ จากคดีนี้เป็นตัวอย่างว่า เจ้าหน้าที่พร้อมดำเนินการตรวจสอบ และหากพบว่ามีความผิดจริงก็จะประสานให้ตำรวจเข้าจับกุมต่อไป

จากการสอบสวนผู้ต้องหา ให้การภาคเสธว่า เรียกรับเงินจำนวนดังกล่าวจริง แต่นำไปเพื่อใช้ภายในโรงพยาบาลและสาธารณประโยชน์ เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวมาสอบปากคำเพิ่มเติมที่ บก.ปปป. ทั้งนี้ จากการตรวจสอบข้อมูลย้อนหลังพบว่า ผู้ต้องหามีประวัติถูกร้องเรียนในลักษณะใกล้เคียงกันนี้อีกหลายครั้ง ตำรวจอยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อมูลการร้องเรียนต่างๆ​ ว่า มีมูลความผิดหรือไม่ หากพบว่ามีมูลพอที่จะดำเนินคดีหรือสืบสวนสอบสวนต่อได้ก็จะดำเนินการทันที และหลังจากนี้จะให้ทางสำนักงาน ป.ป.ท.ตรวจสอบเส้นทางการเงินรวมถึงลักษณะการฟอกเงินต่างๆด้วย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังเจ้าหน้าที่ควบคุมตัวมาสอบปากคำที่ บก.ปปป. เลขาฯ​ ของผู้ต้องหาได้นำเงินสด 5 แสนบาทมาขอประกันตัวผู้ต้องหา ซึ่งพนักงานสอบสวนอยู่ระหว่างการพิจารณาว่าจะให้ประกันตัวหรือไม่ ส่วนขั้นตอนหลังจากนี้ ตำรวจจะรวบรวมพยานหลักฐานเป็นสำนวนคดีส่งให้สำนักงาน ป.ป.ช. พิจารณาชี้มูลความผิด ก่อนส่งเรื่องไปยังศาลพิจารณามูลความผิดต่อไป