เมื่อวันที่ 25 ก.ค. นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในฐานะที่ปรึกษาคณะทำงานศึกษาการจัดตั้งกรมเพื่อรองรับภารกิจด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Climate Change) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นประธานการประชุมคณะทำงานฯ ครั้งที่ 1/2565 โดยมี นายปิ่นสักก์ สุรัสวดี รองปลัดกระทรวงฯ ร่วมด้วยผู้บริหารและผู้แทนจากหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องร่วมประชุม

โดยนายจตุพร กล่าวว่า นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรฯ ได้ให้ความสำคัญกับการปฏิรูปภารกิจและโครงสร้าง ตลอดจนกระบวนการดำเนินงานของหน่วยงานในสังกัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมที่ต้องไม่กระทบกับอัตรากำลังภายในกระทรวงฯ เพื่อรองรับภารกิจด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ อีกทั้งเป็นการแสดงให้ประเทศต่าง ๆ ในอาเซียนได้เห็นถึงความตั้งใจของรัฐบาลไทยในการยกระดับการแก้ไขปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศอย่างจริงจัง ตลอดจนเชื่อมโยงกับนโยบายของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่ได้แสดงเจตนารมณ์ไว้ในการประชุม COP26 ในการให้ความสำคัญสูงสุดกับการแก้ไขปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เพื่อการบรรลุเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน ภายในปี ค.ศ. 2050 และการบรรลุเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ ภายในปี ค.ศ. 2065

นายจตุพพร กล่าวว่า ได้ให้ข้อแนะนำให้กำหนดกรอบภารกิจด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ หน้าที่ ขอบเขต ความรับผิดชอบโครงสร้าง และระบบการบริหารราชการภายในกรมใหม่ให้มีความชัดเจน ไม่ให้เกิดการซ้ำซ้อนตลอดจนสอบถามความคิดเห็นจากบุคคลภายนอกร่วมด้วย ทั้งจากภาครัฐ ภาคเอกชน องค์กรเอกชนด้านสิ่งแวดล้อม ภาคการศึกษาและภาคประชาชนที่สำคัญ ขอให้ตั้งใจและตระหนักว่า การปฏิรูปในครั้งนี้เพื่อให้เกิดคุณประโยชน์กับประเทศชาติอย่างแท้จริงโดยตั้งเป้าหมายภายใน 1 ต.ค. 2566 ต้องมีกรมรองรับภารกิจด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศขึ้นในประเทศไทย

“เรากำลังมองว่าสถานการณ์การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของโลกส่งผลกระทบเป็นวงกว้างในทุกด้านของปัญหาสิ่งแวดล้อมซึ่งที่ผ่านมาภารกิจเรื่องนี้เป็นงานแฝงอยู่ในหน่วยงานต่างๆ โดยเฉพาะสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.) หรือ กรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม ซึ่งใน 8 ประเทศอาเซียนและหลายประเทศทั่วโลกมีกรมที่รับผิดชอบในเรื่องการเปลี่ยนแปลงเรื่องโลกร้อนโดยตรง ไม่ว่าจะเป็นประเทศลาวหรือเพื่อนบ้านอื่นๆ แต่ประเทศไทยเรายังไม่มี ทั้งที่เป็นภารกิจที่สำคัญมาก อย่างไรก็ตามกรมที่จะขึ้นมารองรับภารกิจด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ไม่ใช่การตั้งกรมใหม่เป็นกรมที่ 11 ของกระทรวงฯ แต่อาจจะเป็นการนำภารกิจเรื่องโลกร้อนในความรับผิดชอบของ สผ.และกรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อมมาผนวกเข้าด้วยกัน และเปลี่ยนชื่อกรมใหม่ที่สื่อถึงภารกิจด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ โดยขณะนี้ได้ตั้งคณะกรรมการที่มีผู้เชี่ยวชาญในทุกภาคส่วนขึ้นมาศึกษาแล้ว ”นายจตุพร กล่าว.