สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากเมืองเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เมื่อวันที่ 26 ก.ค. ว่า พญ.แคเธอรีน สมอลวูด หัวหน้าฝ่ายตอบสนองฉุกเฉินขององค์การอนามัยโลก ( ดับเบิลยูเอชโอ ) ประจำภูมิภาคยุโรป กล่าวถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคฝีดาษวานร ที่ดับเบิลยูเอชโอประกาศให้เป็นภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขระหว่างประเทศ เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาว่า แม้ตอนนี้ 99% ของผู้ติดเชื้อคือกลุ่มชายรักชาย แต่ยังแทบไม่มีหลักประกันได้ว่า การแพร่ระบาดจะจำกัดอยู่เฉพาะกับบุคคลกลุ่มนี้


ทั้งนี้ พญ.สมอลวูด มองว่า สถานการณ์ดังกล่าวคือสัญญาณเตือนของการแพร่ระบาดเป็นวงกว้างมากขึ้นในอนาคต เนื่องจากเป็นเรื่องปกติที่การแพร่ระบาดของโรคหนึ่งจะเริ่มจากในวงจำกัด ก่อนขยายวงกว้างออกไปสู่ประชาชนวงกว้าง


ด้านบริษัทบาวาเรียน นอร์ดิก ผู้พัฒนาด้านเทคโนโลยีชีวภาพสัญชาติเดนมาร์ก กล่าวว่า กำลังการผลิตวัคซีนทุกชนิดของบาวาเรียน นอร์ดิก อยู่ที่ 30 ล้านโด๊สต่อปี และบริษัทไม่ได้ผลิตเพียงวัคซีน “รุ่นล่าสุด” สำหรับโรคฝีดาษ หรือไข้ทรพิษ ที่ดับเบิลยูเอชโอประเมินประสิทธิภาพต่อโรคฝีดาษวานรไว้ที่ 85%


อย่างไรก็ตาม ตอนนี้บริษัทกำลังหารือกับพันธมิตรหลายแห่ง รวมถึงบริษัทในสหรัฐ เพื่อขยายกำลังการผลิตวัคซีนป้องกันไข้ทรพิษ เนื่องจากกำลังเป็นที่ต้องการอย่างมาก โดยเฉพาะในยุโรป

ปัจจุบัน วัคซีนต้านไข้ทรพิษของบาวาเรียน นอร์ดิก มีชื่อทางการค้าว่า “อิมวาเนกซ์” “อิมวามูน” และ “จินนีออส” เป็นวัคซีนเดียว ที่รัฐบาลสหรัฐและแคนาดาอนุมัติเป็นกรณีฉุกเฉิน เพื่อให้ใช้ป้องกันโรคฝีดาษวานร ส่วนในยุโรปแม้มีการอนุญาตให้จำหน่ายได้ แต่ยังเป็นการจำกัดแบบนอกข้อบ่งใช้ ( off-label ) คือต้องขึ้นอยู่กับดุลพินิจของแพทย์เท่านั้น.

เครดิตภาพ : REUTERS