เมื่อวันที่ 26 ก.ค. นายอัมพร พินะสา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ซึ่งมี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ได้ให้ความเห็นชอบตามที่ ศธ. เสนอขอปรับอัตราเงินอุดหนุนรายหัวตามความจำเป็นพื้นฐาน เพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายของผู้เรียน และเพิ่มศักยภาพสถานศึกษาในการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐาน 15 ปี ตั้งแต่ระดับก่อนประถมศึกษา ประถมศึกษา มัธยมศึกษาตอนต้น มัธยมศึกษาตอนปลาย และประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) ทั้งสถานศึกษาของรัฐและเอกชน ครอบคลุมการศึกษาในระบบ นอกระบบ และการศึกษาทางเลือก โดยปรับเพิ่มแบบขั้นบันไดต่อเนื่อง 4 ปีงบประมาณ ตั้งแต่ปี งบฯ 2566-2569 ในบางรายการค่าใช้จ่าย ถือว่าเป็นข่าวดีสำหรับลูกๆ นักเรียนของเราที่อยู่ในระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน

เลขาธิการ กพฐ. กล่าวต่อไปว่า ในนามตัวแทนของ สพฐ. และเขตพื้นที่ รวมถึงสถานศึกษา รู้สึกดีใจเป็นอย่างยิ่งที่นายกรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา เห็นความสำคัญของการพัฒนาคุณภาพการศึกษา รวมถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ นางสาวตรีนุช เทียนทอง ที่มีวิสัยทัศน์กว้างไกลในการเสนอขอปรับอัตราเงินอุดหนุนรายหัวสำหรับนักเรียน ถือว่าเป็นก้าวย่างสำคัญในการพัฒนาคุณภาพการศึกษาได้อย่างชัดเจนในทางปฏิบัติ และตอบโจทย์สถานการณ์จริงในปัจจุบัน

ด้าน นางเกศทิพย์ ศุภวานิช รองเลขาธิการ กพฐ. และโฆษก สพฐ. กล่าวเสริมว่า มติ ครม. ที่ ศธ. ได้เสนอขอปรับอัตราเงินอุดหนุนรายหัวตามความจำเป็นพื้นฐาน เพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายของผู้เรียน และเพิ่มศักยภาพสถานศึกษาในการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐาน 15 ปี เป็นสิ่งหนึ่งที่ทำให้คุณภาพการศึกษาถูกเติมเต็ม และลดความเหลื่อมล้ำในด้านคุณภาพชีวิต ส่งเสริมให้นักเรียนได้พัฒนาตนเองในด้านอื่นๆ อย่างรอบด้านเต็มตามศักยภาพ

พร้อมกันนี้ โฆษก สพฐ. ได้รับผลสะท้อนจาก สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาต่างๆ ถึงการที่ ครม. เห็นชอบอนุมัติให้ปรับอัตราเงินอุดหนุนรายหัวดังกล่าว ทางเขตพื้นที่ก็ได้ตอบรับ ซึ่งหวังเรื่องนี้มานาน เพิ่งจะสมหวังในโอกาสนี้ และขอบคุณแทนนักเรียนและผู้ปกครองทุกคน อาทิ นายพิเชฐร์ วันทอง ผอ.สพป.กรุงเทพมหานคร ได้กล่าวขอบคุณนายกรัฐมนตรี รวมถึง รมว.ศธ. และคณะรัฐมนตรี ที่ให้ความสำคัญกับการพัฒนาการศึกษาของชาติ โดยการพิจารณาอนุมัติปรับเพิ่มเงินอุดหนุนรายหัวการศึกษาขั้นพื้นฐาน สำหรับนักเรียนทั้งประเทศ นับเป็นการใช้งบประมาณอย่างมีคุณค่าเพื่อการพัฒนาคน ซึ่งเงินอุดหนุนส่วนนี้มีความสำคัญเพื่อใช้ในการจัดการเรียนการสอนอันจะเกิดประโยชน์สูงสุดต่อการพัฒนานักเรียน ซึ่งจะเติบโตเป็นอนาคตของชาติต่อไป

เช่นเดียวกับ นางชุลีกร ทองด้วง ผอ.สพป.ตรัง เขต 1 ที่กล่าวว่า ตนเองในนามตัวแทนนักเรียนและผู้ปกครอง รู้สึกขอบคุณ นายกรัฐมนตรี ครม. และ รมว.ศธ. เป็นอย่างยิ่ง ที่เห็นชอบเพิ่มเงินอุดหนุนรายหัวเป็นค่าใช้จ่ายเพื่อสนับสนุนการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐาน ช่วยลดภาระผู้ปกครองและเพิ่มโอกาสการเข้าถึงการศึกษามากยิ่งขึ้น เป็นการลดความเหลื่อมล้ำ ในขณะเดียวกัน โรงเรียนสามารถนำงบประมาณมาพัฒนาคุณภาพนักเรียนให้สอดคล้องกับบริบทของสถานศึกษา ชุมชนต่อไปได้

ขณะที่ นางสิริพร ผลประเสริฐ ผอ.โรงเรียนวัดบ้านลำนัง สพป.พิจิตร เขต 1 กล่าวว่า โรงเรียนของตนเป็นโรงเรียนขนาดเล็ก นักเรียนส่วนใหญ่ผู้ปกครองประกอบอาชีพรับจ้างและเกษตรกรรม ซึ่งมีรายได้ไม่แน่นอน ยิ่งช่วงสถานการณ์โควิด-19 ที่ผ่านมา ส่งผลกระทบต่อสภาพเศรษฐกิจในครอบครัวอย่างมาก วันนี้ถือว่าเป็นข่าวดีสำหรับลูกๆ นักเรียนที่ทาง ครม. เห็นชอบเพิ่มเงินรายหัวให้กับนักเรียน เป็นอีกส่วนหนึ่ง ที่ช่วยเหลือนักเรียนและผู้ปกครองได้อย่างดี