นายวิชัย วิรัตกพันธ์ รักษาการผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ เปิดเผยว่า ดัชนีราคาที่ดินเปล่าก่อนการพัฒนา ในกรุงเทพฯ-ปริมณฑล ไตรมาส 2 ปี 65 มีค่าดัชนีเท่ากับ 354.5 จุด เพิ่มขึ้น 4% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า และเพิ่มขึ้น 6.5% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ซึ่งแสดงให้เห็นว่าราคาที่ดินเปล่า มีการปรับเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่เป็นการปรับเพิ่มขึ้นในอัตราที่ชะลอตัวลงเมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปี

สำหรับปัจจัยที่ทำให้ราคาที่ดินเปล่ามีการเพิ่มขึ้นในอัตราที่ชะลอตัว มาจากภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวจากการแพร่ระบาดของโควิด และล่าสุดยังได้รับผลกระทบจากสงครามระหว่างรัสเซีย และยูเครน ที่อาจจะทำให้เศรษฐกิจไทยในปี 65 ขยายตัวลดลงกว่าที่คาดการณ์ ขณะเดียวกันผู้ประกอบการได้รับผลกระทบ จากการจัดเก็บภาษีที่ดินเต็มอัตรา โดยไม่ได้รับส่วนลด 90% จึงทำให้ผู้ประกอบการต้องพิจารณาการซื้อที่ดินสะสมลดลง เพื่อควบคุมภาระภาษีที่ดินซึ่งเป็นต้นทุนในการพัฒนาโครงการในระยะต่อไป

สำหรับโซนพื้นที่ที่มีราคาที่ดิน ขยายตัวเพิ่มขึ้นสูงสุด 5 อันดับแรก ดังนี้

1.ที่ดินในโซนบางพลี-บางบ่อ-บางเสาธง มีอัตราการเปลี่ยนราคามากถึง 40.5%

2.ที่ดินในโซนบางกรวย-บางใหญ่-บางบัวทอง-ไทรน้อย เพิ่มขึ้น 24.2%

3.ที่ดินในโซนเมืองนนทบุรี-ปากเกร็ด มีอัตราการเปลี่ยนราคา 23.6%

4.ที่ดินในโซนพระโขนง-บางนา-สวนหลวง-ประเวศ มีอัตราการเปลี่ยนราคา 12.3%

5.ที่ดินในโซนเมืองสมุทรปราการ-พระประแดง-พระสมุทรเจดีย์ มีอัตราการเปลี่ยนราคา 8.5%

นายวิชัย กล่าวว่า จากภาวะราคาที่ดินที่มีการเปลี่ยนแปลงข้างต้น สะท้อนให้เห็นว่า ที่ดินที่อยู่บริเวณพื้นที่ชานเมืองของกรุงเทพฯ และปริมณฑล มีการเปลี่ยนแปลงของราคามาก เนื่องจากยังมีราคาไม่แพง และยังมีความต้องการนำไปใช้ในการพัฒนาเป็นที่อยู่อาศัยแนวราบมากขึ้น ขณะที่ราคาที่ดินในเขตชั้นใน และชั้นกลางของกรุงเทพฯ มีราคาที่สูงอยู่แล้ว แม้จะมีการปรับตัวขึ้นบ้าง แต่ก็ทำให้อัตราการเปลี่ยนแปลงไม่มาก สูงดังเช่นในพื้นที่ชานเมือง

สำหรับราคาที่ดินเปล่าในแนวเส้นทางที่มีรถไฟฟ้าไตรมาสนี้ พบว่าเส้นทางรถไฟฟ้า 5 อันดับแรกที่เพิ่มขึ้น

อันดับ 1 ได้แก่ สายสีแดงอ่อน ตลิ่งชัน-ศาลายา ราคาที่ดินเพิ่มขึ้น 10.3% โดยราคาที่ดินที่ปรับเพิ่มขึ้นมากอยู่ในในเขตทวีวัฒนา และเขตตลิ่งชัน

อันดับ 2 ได้แก่ สายสีชมพู แคราย-มีนบุรี ซึ่งก่อสร้างไปแล้วกว่า 90.7% ราคาที่ดินเพิ่มขึ้น 10.2% โดยเขตหลักสี่ และเขตคันนายาว เป็นบริเวณที่ราคาที่ดินปรับเพิ่มขึ้นมาก

อันดับ 3 ได้แก่ สายสีม่วง (บางใหญ่-เตาปูน) ซึ่งมีราคาที่ดินเพิ่ม 8.53% เช่น ราคาที่ดินในอำเภอเมืองนนทบุรี และอำเภอบางบัวทอง เป็นบริเวณที่มีราคาปรับเพิ่มขึ้นมาก

อันดับ 4 ได้แก่ สายสีเขียว (สมุทรปราการ-บางปู) ซึ่งเป็นโครงการที่กำลังจะก่อสร้างในอนาคต และสายสีเขียว (แบริ่ง-สมุทรปราการ) ซึ่งเป็นโครงการที่เปิดให้บริการแล้ว โดยราคาที่ดินทั้ง 2 เส้นทาง เพิ่มขึ้น 8.51% โดยพบว่าอำเภอเมืองสมุทรปราการ เป็นบริเวณที่มีราคาที่ดินเพิ่มมากสุด

อันดับ 5 ได้แก่ สายสีน้ำเงิน (บางแค-พุทธมณฑล สาย 4) ซึ่งเกำลังจะก่อสร้างในอนาคต มีราคาเพิ่มขึ้น 8.1% โดยเขตหนองแขม และเขตบางแค มีการปรับราคาเพิ่มขึ้นมาก