เมื่อวันที่ 9 ส.ค. นายชัยพฤกษ์ วีระวงศ์ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะลันตา จ.กระบี่ ได้รับแจ้งพบซากฉลามวาฬเกยตื้นบริเวณชายหาดลองบีช ใกล้กับ โรงแรมซายังบีชรีสอร์ท หมู่ 3 ต.ศาลาด่าน อ.เกาะลันตา จ. กระบี่ จึงนำเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะลันตาจำนวนกว่า 10 คน ร่วมกับหน่วยรักษาความปลอดภัยทางทะเล กองทัพเรือ (นรภ.ทร.) เกาะลันตาน้อย ประมงอำเภอเกาะลันตา เข้าร่วมตรวจสอบ พร้อมทั้งประสานข้อมูลจากศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ทะเลหายาก จ.ตรัง

จากการตรวจสอบพบซากฉลามวาฬ มีความยาว 5 เมตร น้ำหนักประมาณ 2.5 ตัน เพศผู้ สภาพเน่าเปื่อย ไม่พบร่องรอยบาดแผลใดๆ จึงนำชิ้นส่วนส่งผ่าพิสูจน์หาสาเหตุการตายอย่างละเอียด

ขณะที่นักดำน้ำหลายคน หลังทราบข่าวดังกล่าว ก็ได้มีการโพสต์ไว้อาลัยและสลดใจกับการสูญเสียฉลามวาฬยักษ์ใหญ่แห่งท้องทะเลกระบี่ผ่านโลกโซเชียลจำนวนมาก โดยนักดำน้ำรายหนึ่ง เปิดเผยว่า ฉลามวาฬตัวดังกล่าว น่าจะเป็นฉลามวาฬที่ว่ายไปมาระหว่างเกาะพีพีและเกาะลันตา ซึ่งพบเห็นได้บ่อยในช่วงที่ผ่านมา แต่ช่วง 10 วันมานี้ ไปดำน้ำก็ไม่เจอแล้วอีกด้วย

ขณะที่นายสมบูรณ์ แข็งแรง ผู้จัดการโรงแรมซายังบีชรีสอร์ท ให้ข้อมูลว่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ทราบว่ามีฉลามวาฬขนาดใหญ่ ถูกคลื่นซัดลอยมาติดชายหาดลองบีช ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากโรงแรม จึงได้เดินออกมาดู พบว่าซากฉลามวาฬ เริ่มเน่าเปื่อย มีกลิ่นเหม็น คาดว่าตายมาแล้วไม่ต่ำกว่า 2 วัน จึงได้แจ้งเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบ

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า เมื่อเดือน ต.ค.ปี พ.ศ. 55 ได้มีซากฉลามวาฬ ขนาดใหญ่ ถูกคลื่นซัดลอยมาเกยหาดหาดคลองนิล ต.เกาะลันตาใหญ่ อ.เกาะลันตา โดยซากฉลามวาฬดังกล่าว มีขนาดยาว 7.8 เมตร และหนักประมาณ 8 ตัน ผลจากการพิสูจน์การตาย คาดว่าติดอวนเรือประมงอวนลาก จึงทำให้เสียชีวิต.