สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงคาบูล ประเทศอัฟกานิสถาน เมื่อวันที่ 16 ส.ค. ว่านายซาบิฮุลเลาะห์ มูจาฮิด โฆษกกลุ่มตาลีบัน แถลงเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นวันครบรอบ 1 ปี การที่กลุ่มตาลีบันหวนกลับสู่อำนาจสูงสุดในอัฟกานิสถานได้เป็นครั้งแรกในรอบ 20 ปี และการถอนทหารของกองทัพสหรัฐ ว่าคือ “ชัยชนะเหนือความผิดพลาด” และถือเป็น “วันแห่งการปลดปล่อย” ของอัฟกานิสถาน

สมาชิกตาลีบันเดินผ่านกำแพงซึ่งทาสีเป็นโฆษณาชวนเชื่อต่อต้านสหรัฐ ในกรุงคาบูล


ด้านกระทรวงการต่างประเทศอัฟกานิสถานออกแถลงการณ์ ว่ารัฐบาลตาลีบันมุ่งมั่งสถาปนา และสร้างเสริมความสัมพันธ์เชิงบวกกับชาวโลก พร้อมทั้งยืนยันว่า การปกครองตามแนวทางของกลุ่มตาลีบัน ได้สร้างความมั่นคงและความปลอดภัยให้แก่อัฟกานิสถาน “ซึ่งเป็นสิ่งที่สหรัฐไม่เคยทำได้ตลอด 2 ทศวรรษที่ผ่านมา”

นักรบของตาลีบันยืนรักษาความปลอดภัย บนสะพานแห่งหนึ่ง ในกรุงคาบูล


อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ทางเศรษฐกิจของอัฟกานิสถานยังคงเปราะบางอย่างหนัก เนื่องจากรัฐบาลต่างประเทศ และองค์กรระหว่างประเทศอีกหลายแห่ง ยังคงระงับการมอบความช่วยเหลือ เพื่อเพิ่มแรงกดดันให้กับกลุ่มตาลีบัน ในการยกระดับสิทธิสตรี และบริบทด้านมนุษยธรรมที่เกี่ยวข้อง


ขณะที่รัฐบาลตาลีบันต้องการให้รัฐบาลวอชิงตันยุติการอายัดทรัพย์สินมากกว่า 9,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 320,220 ล้านบาท) ที่ธนาคารกลางอัฟกานิสถานฝากไว้ในสหรัฐ แต่การเจรจาแทบไม่มีความคืบหน้า จากการที่สหรัฐกำหนดเงื่อนไข ให้เจ้าหน้าที่ในรัฐบาลตาลีบันที่มีชื่ออยู่ในบัญชีคว่ำบาตรของสหรัฐ ต้องลงจากตำแหน่ง

กลุ่มเด็กหญิงชาวอัฟกันแย่งกันรับแจกขนมปัง ในกรุงคาบูล


ปัจจุบัน ประชากรราว 25 ล้านคน หรือเกินครึ่งของทั้งประเทศ มีคุณภาพชีวิตต่ำกว่าเส้นแบ่งความยากจนของสหประชาชาติ (ยูเอ็น).

เครดิตภาพ : REUTERS