เมื่อวันที่ 16 ส.ค. นายเกิดผล แก้วเกิด ทนายความชื่อดัง ได้โพสต์เฟซบุ๊ก แจ้งผลคำพิพากษาคดี ตำรวจยิงพ่อค้าก๋วยเตี๋ยวที่สาหัสในพื้นที่ อ.ป่าตอง จ.ภูเก็ต เหตุเกิดปี 2564 ว่า “….ที่ห้องพิจารณาคดี 3 ศาลจังหวัดภูเก็ต อ่านคำพิพากษาคดีอาญาดำที่ 262/2564 กรณี ส.ต.ท.พรเทพ ขาญนรงค์ เจ้าหน้าที่ตำรวจหน่วยปฏิบัติพิเศษ สังกัด บก.สส.ภ.8 ที่ก่อเหตุใช้อาวุธปืนยิง นายอรุณ ทองพลับ พ่อค้าขายก๋วยเตี๋ยว บริเวณถนนบางลา ป่าตอง จ.ภูเก็ต เหตุเกิดเมื่อวันที่ 22 ก.พ. 2564

โจทก์ฟ้องจำเลยในความผิด 4 ข้อหา คือ 1.พยายามฆ่า 2. พกพาอาวุธปืนในที่สาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต 3.ยิงปืนในเมือง หมู่บ้าน โดยไม่มีเหตุอันควร 4.เสพยาเสพติด โจทก์มีประจักษ์พยาน และมีคลิปบันทึกภาพจากกล้องวงจรปิด เป็นพยานสำคัญในคดี จำเลยให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา อ้างเหตุที่ยิงผู้เสียหาย เพราะเข้าใจผิดว่าผู้เสียหายจะเข้ามาทำร้าย และขอให้ศาลลงโทษจำเลยในสถานเบา เนื่องจากจำเลยมีภาระหน้าที่รับผิดชอบเลี้ยงดูมารดา

ศาลได้พิจารณาแล้วพิพากษาว่า ข้ออ้างที่จำเลยอ้างว่าขอให้สายเมตตาลงโทษจำเลยสถานเบานั้น เพราะจำเลยมีภาระหน้าที่ต้องรับผิดชอบเป็นข้ออ้างที่ฟังไม่ขึ้น เพราะบุคคลอื่น ๆ ก็มีภาระหน้าที่ต้องรับผิดชอบเช่นเดียวกับจำเลย โดยเฉพาะผู้เสียหายที่ถูกจำเลยยิงและเป็นผู้พิการตลอดชีวิต ยังต้องมีภาระหน้าที่รับผิดชอบบุตรอีก 2 คน ซึ่งเป็นผู้เยาว์และครอบครัว ประกอบกับ จำเลยซึ่งเป็นเจ้าพนักงานตำรวจมีความชำนาญในการใช้อาวุธปืน ย่อมเล็งเห็นถึงอันตรายจากการใช้อาวุธปืน แต่จำเลยกลับไม่เคารพต่อกฎหมาย ดื่มสุราและเสพยาเสพติด จนไม่สามารถครองสติได้ แล้วยังใช้อาวุธปืนยิงไปยังผู้เสียหายที่ไม่มีพฤติการณ์จะเป็นภัยคุกคามต่อจำเลย การที่จำเลยใช้อาวุธปืนเล็งและยิงไปยังผู้เสียหายจึงถือว่ามี “เจตนาฆ่า” แต่ผู้เสียหายไม่ถึงแก่ความตายเนื่องจากรักษาทัน การกระทำความผิดของจำเลย จึงเป็นความผิดฐาน “พยายามฆ่า”

การที่จำเลยพกพาอาวุธปืนไปในที่สาธารณะโดยไม่มีใบอนุญาตให้พกพาและไม่มีข้อยกเว้น แม้จำเลยจะอ้างว่าเป็นเจ้าพนักงานตำรวจปฏิบัติหน้าที่สายสืบก็ฟังไม่ขึ้น เนื่องจากวันเกิดเหตุจำเลยพกอาวุธปืน เข้ามาดื่มกินสุราเพื่อเลี้ยงฉลองในการเลื่อนตำแหน่ง จึงไม่ถือว่าเป็นการปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย พิพากษาในความผิดดังต่อไปนี้ 1.ความผิดฐานพยายามฆ่า จำคุก 33 ปี 4 เดือน 2. ความผิดฐานพระอาวุธปืนไปในเมืองหมู่บ้านทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควรปรับ 1,000 บาท 3. ความผิดฐานยิงปืนในเมืองหมู่บ้านโดยไม่มีเหตุอันควรปรับ 1,000 บาท 4. ความผิดฐานเสพยาเสพติด จำคุก 2 เดือน ให้จำเลยชดใช้ค่าสินไหมทดแทนแก่ผู้เสียหายเป็นระยะเวลา 20 ปี รวมทั้งสิ้น เป็นเงิน 7,992,500 บาท แต่จำเลยให้การเป็นประโยชน์ต่อการพิจารณาคดีศาลจึงเมตตาลดโทษให้ 1 ใน 4 ของ โทษตามคำพิพากษา คงจำคุก 25 ปี 4 เดือน 15 วันปรับ 1,000 บาท และให้ชดใช้ค่าสินไหมทดแทน แก่ผู้เสียหายเป็นเงิน 7,992,500 บาท กราบขอบพระคุณศาลจังหวัดภูเก็ต ที่พิพากษาลงโทษจำเลยและให้ความเป็นธรรมกับพ่อค้าขายก๋วยเตี๋ยวผู้เสียหายในคดีนี้”

หลังจากมีการโพสต์ข้อความดังกล่าวออกไปทำให้ชาวเน็ตต่างเข้ามาแสดงความเห็นกันอย่างกว้างขวาง ส่วนใหญ่ขอบคุณทนายความที่ช่วยต่อสู้คืนความเป็นธรรมกับฝ่ายผู้เสียหาย และยังให้กำลังใจพ่อค้าก๋วยเตี๋ยวให้สู้ชีวิตต่อไปด้วย

อย่างไรก็ตาม นายเกิดผล ยังได้โพสต์ข้อความระบุว่า ในกรณี ค่าสินไหมทดแทน ที่ศาลพิพากษาให้จำเลยจ่าย 7.9 ล้าน ผมเชื่อว่า จำเลยไม่มีจ่าย ถึงมีก็ไม่จ่าย คงเป็นภาระหน้าที่ของผู้เสียหาย/ทนายความ ต้องสืบหาทรัพย์สินของจำเลย เพื่อนำมาบังคับคดี ขายทอดตลาดต่อไป แต่ผมเข้าใจว่าไม่น่าจะมี และได้สืบทราบมาว่า จำเลยได้ยักย้ายถ่ายโอนทรัพย์สินไปบางส่วนแล้ว ผมขอเวลาสืบหาก่อนว่า จำเลยโอนทรัพย์สินให้ใคร ถ้าโอนให้คนในครอบครัว ไม่ว่าจะเป็นพ่อแม่ลูกเมีย ผมฟ้องข้อหาร่วมกันโกงเจ้าหนี้ อีกคดีแน่นอนครับ ผมกัดไม่ปล่อยแน่นอน.