สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงเทลอาวีฟ ประเทศอิสราเอล เมื่อวันที่ 18 ส.ค. ว่าทำเนียบรัฐบาลอิสราเอลออกแถลงการณ์ เมื่อวันพุธที่ผ่านมา เป็นการสนทนาทางโทรศัพท์ระหว่าง นายกรัฐมนตรียาอีร์ ลาพิด กับประธานาธิบดีเรเซป เทย์ยิป เออร์โดกัน ผู้นำตุรกี โดยมีการระบุเกี่ยวกับ การยกระดับความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างทั้งสองประเทศ ให้กลับคืนสู่ “ระดับปกติอีกครั้ง” เพื่อส่งเสริมและขยายขอบเขตความสัมพันธ์ระดับทวิภาคี “ในทุกมิติ”


ขณะที่กระทรวงการต่างประเทศตุรกีเผยแพร่แถลงการณ์ ในวันเดียวกัน ว่าอิสราเอลและตุรกีเตรียมแต่งตั้งเอกอัครราชทูต เพื่อเดินทางกลับไปปฏิบัติหน้าที่ ณ กรุงเทลอาวีฟ และกรุงอังการา แต่ทิ้งท้ายว่า ความเคลื่อนไหวดังกล่าวไม่ได้หมายความว่า จุดยืนของรัฐบาลอังการาต่อเรื่องปาเลสไตน์ “จะเปลี่ยนแปลงตามไปด้วย”


ย้อนกลับไปเมื่อปี 2561 อิสราเอลและตุรกีเนรเทศเอกอัครราชทูตกันและกัน จากเหตุชาวปาเลสไตน์ประท้วงครั้งใหญ่ ต่อการที่สหรัฐย้ายสถานเอกอัครราชทูตจากกรุงเทลอาวีฟ มายังนครเยรูซาเลม โดยปฏิบัติการปราบปรามโดยเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงของอิสราเอล ส่งผลให้มีชาวปาเลสไตน์เสียชีวิตมากกว่า 60 ราย อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านั้นทั้งสองประเทศมีประเด็นให้ถกเถียงกันอยู่แล้ว โดยเฉพาะที่เกี่ยวข้องกับปาเลสไตน์


กระนั้น การที่ประธานาธิบดีไอแซค เฮอร์ซอก แห่งอิสราเอล เยือนกรุงอังการา เมื่อเดือน มี.ค. ที่ผ่านมา ตามด้วยการแลกเปลี่ยนการเยือนระหว่างรัฐมนตรีต่างประเทศของทั้งสองประเทศ ช่วยให้สถานการณ์ผ่อนคลายขึ้น.

เครดิตภาพ : GETTY IMAGES