นายศักดิ์ชัย ภัทรปรีชากุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็น.ซี.ซี. แมนเนจเม้นท์ แอนด์ ดิเวลลอปเม้นท์ จำกัด (เอ็น.ซี.ซี.) เปิดเผยว่า ทุกวันนี้เทคโนโลยี และนวัตกรรม ได้พัฒนาอย่างรวดเร็ว และเข้ามาสู่การดำเนินชีวิตในทุกมิติ ฉะนั้นทุกประเทศทั่วโลกต่างมุ่งพัฒนาเมืองให้ก้าวไปสู่การเป็นเมืองอัจฉริยะ (Smart City) เพื่ออำนวยความสะดวกในการดำรงชีวิต และเสริมสร้างความปลอดภัยของพลเมือง ทั้งด้านที่อยู่อาศัย สาธารณสุข และสิ่งแวดล้อม ซึ่งรัฐบาลไทยก็ให้ความสำคัญและเดินหน้าพัฒนาเมืองอัจฉริยะมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อขับเคลื่อนนโยบายประเทศไทย 4.0 ตามยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี
ด้วยปัจจัยที่ได้กล่าวมานี้ เอ็น.ซี.ซี. จึงมองเห็นถึงการเติบโตของอุตสาหกรรมและบริการที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาเมืองอัจฉริยะ ที่จะมีกำลังซื้อเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ จึงมีแนวคิดที่จะจัดงาน Thailand Smart City Expo 2022 งานแสดงสินค้าและเทคโนโลยีระดับนานาชาติด้านเมืองอัจฉริยะ ที่รวบรวมสินค้าและเทคโนโลยีฯ มาจัดแสดง เพื่อให้ผู้บริหารเมือง ผู้นำชุมชนทั้งในประเทศและต่างประเทศสามารถเลือกหาสินค้าได้สะดวกยิ่งขึ้น
สำหรับการจัดงานในครั้งนี้ ได้ดึงพันธมิตรที่เชี่ยวชาญด้านการพัฒนาเมืองอัจฉริยะทั่วทุกมุมโลกมาให้ความรู้และจุดประกายแนวคิดการพัฒนาเมืองโดยใช้เทคโนโลยีนวัตกรรมให้สอดรับกับอัตลักษณ์ของแต่ละเมืองได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งการจัดงานในครั้งนี้มีกำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 30 พ.ย.-2 ธ.ค. 2565 ในรูปแบบไฮบริด มีการจัดแสดงครอบคลุม 7 กลุ่มประเภทสินค้า รวมกว่า 300 บูธ ได้แก่ ระบบจัดการด้านพลังงาน ระบบบ้านและอาคารอัจฉริยะ ระบบโรงงานอุตสาหกรรมและร้านค้าปลีก ระบบด้านสุขภาพและโรงพยาบาล ระบบสื่อสารโทรคมนาคม ระบบขนส่งและยานยนต์ และระบบการจัดการสิ่งแวดล้อม โดยภายในงานยังจะมีกิจกรรมที่น่าสนใจ อาทิ สัมมนาจากวิทยากรผู้เชี่ยวชาญด้านการพัฒนาเมืองอัจฉริยะ ผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยี 5G ครอบคลุมทุกด้านในการใช้ชีวิต การให้คำปรึกษาด้านเทคโนโลยีเพื่อประโยชน์ทางธุรกิจ สร้างเครือข่าย แบ่งปันความรู้ จากผู้เชี่ยวชาญในหลายอุตสาหกรรม การจัดแสดงหุ่นยนต์อัจฉริยะ และกิจกรรมที่เกี่ยวกับ Metaverse กับเทคโนโลยี AR และ 3D Interactive ผ่านแอปพลิเคชัน “Graffity Mappers”
นายภาสกร ประถมบุตร รองผู้อำนวยการใหญ่ กลุ่มงานโครงการพิเศษและศูนย์พัฒนาดิจิทัลและนวัตกรรม สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล หรือ ดีป้า กล่าวว่า ปัจจุบัน ประเทศไทยมีเมืองที่ได้รับการประกาศเป็นเมืองอัจฉริยะแล้ว 30 พื้นที่ใน 23 จังหวัด อีกทั้งได้รับความเห็นชอบแผนพัฒนาเมืองอัจฉริยะเพิ่มเติมจากที่ประชุมคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนและบริหารโครงการเมืองอัจฉริยะ ที่มี นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) เป็นประธาน เมื่อวันที่ 5 สิงหาคมที่ผ่านมาอีก 15 พื้นที่ใน 14 จังหวัด
ทั้งนี้ กลไกสำคัญในการขับเคลื่อนการพัฒนาเมืองอัจฉริยะประเทศไทยจะต้องมีการบูรณาการการทำงานในทุกภาคส่วน ทั้งหน่วยงานภาครัฐ หน่วยงานท้องถิ่น ภาคเอกชน รวมถึงภาคประชาชน เพื่อให้เกิดการดำเนินงานที่เป็นรูปธรรม และตอบโจทย์ความต้องการอย่างตรงจุด ดังนั้นความร่วมมือกับ เอ็น.ซี.ซี. ในการจัดงาน Thailand Smart City Expo 2022 จะเป็นอีกหนึ่งกลไกสำคัญที่จะช่วยผลักดันประเทศไทยก้าวไปสู่การเป็นเมืองอัจฉริยะได้อย่างสมบูรณ์ ผ่านการเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับกระบวนการการพัฒนาเมืองอัจฉริยะที่มุ่งเน้นให้คนเป็นศูนย์กลาง เพื่อให้เกิดแผนการพัฒนาเมือง รวมถึงโครงการที่ตอบสนองบริบทของพื้นที่ และความต้องการของประชาชนให้กับผู้บริหารเมือง ทั้งระดับประเทศ จังหวัด และชุมชน อันจะนำมาซึ่งคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นของประชาชน ยกระดับสังคม และสิ่งแวดล้อม อีกทั้งช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน สอดคล้องกับนโยบายของภาครัฐที่มุ่งส่งเสริมการขับเคลื่อนการพัฒนาเมืองอัจฉริยะทั่วประเทศ
โดยในงาน Thailand Smart City Expo 2022 ดีป้า ได้นำ Showcase ด้านการพัฒนาเมืองอัจฉริยะมาจัดแสดง รวมถึงเปิดเวทีให้กับผู้เชี่ยวชาญด้านเมืองอัจฉริยะมาร่วมแลกเปลี่ยนแนวคิดและประสบการณ์ ตลอดจนพิธีมอบรางวัล The Smart City Solution Awards 2022 เพื่อเป็นการส่งเสริมผลงานด้านการพัฒนาเมืองอัจฉริยะด้วย
นายนิติ เมฆหมอก นายกสมาคมไอโอที กล่าวว่า ความคิดสร้างสรรค์และนวัตกรรม จะช่วยนำมาประเทศไทยไปสู่ความเป็นเมืองอัจฉริยะ ซึ่งไอโอที (IoT : Internet of Things) คือเทคโนโลยีพื้นฐานในการพัฒนาเมืองอัจฉริยะ ไม่ว่าจะเป็นการนำมาใช้งานในด้าน ระบบ command center, การวางผังเมือง หรือการประยุกต์ใช้ดาต้าที่มีส่วนช่วยในการตัดสินใจในชีวิตประจำวัน ซึ่งเป็นการต่อยอดเทคโนโลยีที่พัฒนามาอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นหน่วยงานต่างๆ หรือเมืองต่างๆ จะสามารถเลือกใช้เทคโนโลยีเพื่อการพัฒนาองค์กร ชุมชน เมือง หรือแม้แต่พัฒนาตัวเราเองได้อย่างเหมาะสม
ดังนั้น ความร่วมมือกับ เอ็น.ซี.ซี. ในครั้งนี้ ทางสมาคมฯ และสมาชิก ได้เตรียมนำผลงานต่างๆ ที่ได้ร่วมทำกับทุกภาคส่วนทั้งภาครัฐ มหาวิทยาลัย ภาคเอกชน รวมถึงกลุ่มสตาร์ทอัพ มาจัดแสดงไว้ภายในงาน ภายใต้ IoT Pavilion เพื่อโชว์นวัตกรรมจากบริษัทเทคโนโลยีในระดับตั้งแต่เล็ก-กลาง-ใหญ่ และไฮไลท์สำคัญคือการเปิดเวทีให้มีการนำเสนอไอเดียนวัตกรรมที่น่าสนใจหรือธุรกิจจากกลุ่มสตาร์ทอัพให้กับนักลงทุนเพื่อให้เกิดการร่วมทุนหรือการซื้อผลงานไปผลิตในเชิงพาณิชย์ เพื่อสร้างการแข่งขันและยกระดับเทคโนโลยีให้เข้ากับบริบทเมืองไทย และประเทศอื่นๆ ในภูมิภาค รวมถึงการจัดเสวนาบอกเล่านวัตกรรมเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่เมืองควรมี เพื่อนำไปใช้งานหรือพัฒนาต่อยอดสู่การเป็นเมืองอัจฉริยะได้อย่างเป็นรูปธรรม
นายประพัทธ์พงษ์ อุปลา ผู้อำนวยการสำนักวิจัยนวัตกรรมเมืองอัจฉริยะ (SCiRA) สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง กล่าวว่า สำนักวิจัยนวัตกรรมเมืองอัจฉริยะ (SCiRA) เป็นหน่วยงานช่วยพัฒนาเมืองอัจฉริยะทางด้านวิชาการที่รวมแหล่งองค์ความรู้จากนักวิจัย ดังนั้น ความร่วมมือกับ เอ็น.ซี.ซี ในครั้งนี้ จะเป็นเวทีถ่ายทอดองค์ความรู้ของสำนักวิจัยนวัตกรรมเมืองอัจฉริยะ (SCiRA) ให้ไปสู่ท้องถิ่น เพื่อขยายผลงานวิจัย พัฒนานวัตกรรมให้เกิดผลสัมฤทธิ์อย่างเป็นรูปธรรมในวงกว้าง ผ่านการนำเสนองานวิจัยและพัฒนานวัตกรรมที่เกี่ยวกับเมืองอัจฉริยะที่ได้พัฒนามาอย่างต่อเนื่อง เช่น โครงการแก้มลิงใต้ดิน Bangkok พื้นที่นำร่องสวนเบญจกิติ 130 ไร่ รองรับน้ำได้ 1 แสน ลบ.ม. แก้ปัญหาน้ำท่วม กทม. เป็นต้น