พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ เผยว่า สมาคมฯ จะยังไม่รีบตั้งโค้ชทีมชาติไทย ชุดอายุไม่เกิน 23 ปี เพราะยังไม่มีทัวร์นาเมนท์แข่งขันในช่วงที่จะถึงนี้

ทีมชาติไทย ชุดอายุไม่เกิน 23 ปี เพิ่งมีประเด็น “มาดามแป้ง” นวลพรรณ ล่ำซำ ขอลาออกไปคุมทีมชุดใหญ่อย่างเดียว ให้เหตุผลเรื่องสุขภาพ โดยโปรแกรมของ ช้างศึกหนุ่ม จะมีทัวร์นาเมนท์ปีหน้าเลย คือ ศึก 22 ปี ชิงแชมป์อาเซียน (รอกำหนดวันแข่งขัน), ซีเกมส์ 2023 ที่ประเทศกัมพูชา (วันที่ 5-16 พ.ค.), เอเชี่ยนเกมส์ ที่จีน (วันที่ 23 ก.ย.-8 ต.ค.), ศึก 23 ปีชิงแชมป์เอเชีย รอบคัดเลือก (รอกำหนดวันแข่งขัน) ซึ่งเป็นก้าวแรกสู่โอลิมปิกเกมส์ 2024 ส่วนรอบสุดท้าย แข่งปี 2024 โดย สมาคมลูกหนังไทย มีนโยบายล็อกอายุนักเตะที่สามารถแข่งขันชิงแชมป์เอเชีย ล่าฝัน โอลิมปิกเกมส์ 2024

ในเรื่องของโค้ชทีม 23 ปี หลังจาก “โค้ชโย่ง” วรวุธ ศรีมะฆะ ลาออกไป ช่วงปลายเดือน มิ.ย.ที่ผ่านมา สมาคมกีฬาฟุตบอลฯ ยังไม่ได้แต่งตั้งโค้ชคนใหม่มาแทนที่ โดยเรื่องนี้ พล.ต.อ.สมยศ ให้สัมภาษณ์ “กีฬาเดลินิวส์” ว่า จะยังไม่รีบร้อนในการตั้งกุนซือช้างศึกหนุ่มคนใหม่ เพราะยังไม่มีทัวร์นาเมนต์ ส่วนช่วงฟีฟ่าเดย์ เดือน ก.ย.นี้ ที่ทีมชาติชุดใหญ่มีคิวแข่งขัน 4 เส้า สำหรับทีมชุด 23 ปี หากเรียกนักเตะ ก็อาจจะไม่ได้รายที่ต้องการจริงๆ เพราะในระดับ 23 ปี ไม่สามารถบังคับสโมสรให้ปล่อยตัวได้

เมื่อถามว่า การที่ยังไม่ตั้งโค้ชใหม่ จะมีผลต่อการเตรียมแผนทีมชาติไทย ชุด 23 ปี ที่มีโปรเจคท์ยักษ์ “ปารีส 2024” หรือไม่ เพราะแม้ไม่มีทัวร์นาเมนต์ หากมีโค้ชใหม่มาแล้ว ก็จะตามดูนักเตะในข่ายได้ เรื่องนี้ พล.ต.อ.สมยศ กล่าวว่า ที่ผ่านมาฝ่ายเทคนิคของ สมาคมกีฬาฟุตบอลฯ โดย การ์เลส โรมาโกซา ผู้อำนวยการสโมสร มีทีมงานที่คอยดูนักเตะในแต่ละรุ่นอายุ โดยลิสต์รายชื่อไว้รุ่นละ 30-50 คนอยู่แล้ว เมื่อโค้ชใหญ่เข้ามารับงาน ก็จะส่งมอบรายชื่อเพื่อให้พิจารณา และตามดูฟอร์มอีกครั้งว่าเหมาะสมจะเรียกติดทีมหรือไม่ ดังนั้น เมื่อได้หัวหน้าโค้ชเข้ามารับตำแหน่ง ก็จะไม่ใช่การเริ่มใหม่ทั้งหมด ตั้งแต่หานักเตะ เพราะทีมงานก็เตรียมไว้อยู่แล้ว

“ขณะเดียวกัน คนเป็นโค้ชที่ดี ก็จะติดตามวงการฟุตบอลเสมอ ไม่ให้ตกยุค แม้ตัวเองจะว่างงานอยู่ ก็จะต้องตามติดวงการฟุตบอล และเมื่อรับงานแล้วก็จะเดินหน้าลุยได้เลย” พล.ต.อ.สมยศ กล่าว