สำนักข่าวซินหัวรายงานจากเมืองเยรูซาเลม ประเทศอิสราเอล เมื่อวันที่ 26 ส.ค. ว่าองค์การโบราณวัตถุอิสราเอล เปิดเผยการค้นพบคฤหาสน์หรูหราในชนบท อายุเก่าแก่ประมาณ 1,200 ปี ในทะเลทรายเนเกฟ ทางตอนใต้ของประเทศ โดยการค้นพบโบราณสถานดังกล่าว เกิดขึ้นระหว่างการขุดสำรวจ ก่อนดำเนินโครงการขยายเมืองราฮัต ของชาวเบดูอิน


คฤหาสน์จากยุคอิสลามตอนต้น ถูกสร้างขึ้นรอบลานกลาง แบ่งเป็น 4 ปีกพร้อมห้องต่าง ๆ ซึ่งปีกหนึ่งเป็นห้องโถงปูพื้นด้วยหินอ่อนและหิน และตกแต่งผนังด้วยปูนเปียก โดยชิ้นส่วนปูนเปียกขนาดเล็กที่ยังหลงเหลืออยู่นั้น มีสีแดง สีเหลือง สีฟ้า และสีดำ


สำหรับห้องอื่นที่เหลือ มีพื้นปูนปลาสเตอร์ และหลายห้องมีเตาอบทำอาหารขนาดใหญ่มาก ขณะที่ชิ้นส่วนขนาดเล็กที่พบนั้น เป็นเศษจานแก้วที่ได้รับการตกแต่งอย่างประณีต ด้านลานของคฤหาสน์มีทางเดินหลังคาโค้งอยู่เหนือที่เก็บน้ำ ซึ่งตัดถากด้วยหินลึก 3 เมตร

ขณะที่กลุ่มทางเดินหลังคาโค้ง ได้รับการสร้างขึ้นอย่างประณีต และอาจนำไปสู่สิ่งปลูกสร้างใต้ดิน ที่ใช้เก็บอาหารภายใต้อุณหภูมิอากาศค่อนข้างเย็น โดยโครงสร้างหลังคาโค้งช่วยให้ผู้อยู่อาศัยเดินอยู่ใต้ดินอย่างปลอดภัยและสะดวกสบาย หลบอากาศอบอ้าวยามฤดูร้อน และดื่มน้ำเย็นจากที่เก็บน้ำใกล้เคียง


นอกจากนี้ คณะนักโบราณคดียังพบชิ้นส่วนตะเกียงน้ำมันดินเผา ที่ใช้ให้แสงสว่างในห้องมืดบนพื้นห้องนิรภัย โดยคณะนักวิจัยสันนิษฐานว่า ผู้อาศัยอยู่ในคฤหาสน์แห่งนี้อาจเป็นเจ้าของที่ดิน ผู้มีฐานะสูงส่งและมั่งคั่ง ซึ่งดูแลพื้นที่และสิ่งปลูกสร้าง ในฟาร์มทางตอนเหนือของทะเลทรายเนเกฟ.

ข้อมูล-ภาพ : XINHUA