เป็นอีกหนึ่งภารกิจของกระทรวงแรงงานที่ต้องดำเนินการหลังจัดระบบการบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว โดยเปิดโอกาสให้นายจ้างที่ขาดแคลนแรงงานและต้องการใช้แรงงานต่างด้าวทำงาน ให้นำแรงงานต่างด้าวที่มีสถานะไม่ถูกต้องตามกฎหมาย และทำงานอยู่กับนายจ้างก่อนที่คณะรัฐมนตรีจะมีมติอนุญาตเมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม 2565 มาขึ้นทะเบียนขออนุญาตทำงานให้ถูกต้องตามกฎหมาย โดยดำเนินการให้เสร็จสิ้น ภายในวันที่ 15 ตุลาคม 2565 และสามารถอยู่ทำงานเป็นการชั่วคราวได้ถึงวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2566 และหากประสงค์จะทำงานต่อไปก็สามารถขอต่ออายุใบอนุญาตทำงานได้อีกคราวละ 1 ปี จำนวน 2 ครั้ง จนถึงวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2568 นั้นหมายความว่าหลังจากวันที่ 15 ตุลาคม 2565 เป็นต้นไปก็จะมีการดำเนินการตรวจสอบ ปราบปราม จับกุม และดำเนินคดีกับนายจ้าง/สถานประกอบการ และคนต่างด้าวที่กระทำความผิดใช้แรงงานและลักลอบเข้ามาทำงานผิดกฎหมาย

ในเรื่องนี้ นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ออกมาชี้แจงว่า รัฐบาลได้ให้ความสำคัญกับการจัดระบบการบริหารจัดการการทำงานของแรงงานข้ามชาติอย่างยิ่ง เพราะมีส่วนที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐ เอกชน และความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ซึ่งในส่วนกระทรวงแรงงาน มีความมุ่งมั่นจะทำให้เกิดการใช้แรงงานถูกกฎหมายในทุกมิติ เพื่อป้องกันทั้งปัญหาขาดแคลนแรงงาน และปัญหาการค้ามนุษย์ในกลุ่มแรงงานข้ามชาติ โดยในปีงบประมาณ 2565 กรมการจัดหางานได้มีการตรวจสอบและดำเนินคดี นายจ้าง/สถานประกอบการและคนต่างด้าวทั่วประเทศ

โดยตรวจสอบนายจ้าง/สถานประกอบการ จำนวน 39,432 ราย/แห่ง ดำเนินคดี จำนวน 864 ราย/แห่ง ตรวจสอบการทำงานคนต่างด้าว จำนวน 479,246 คน ดำเนินคดี จำนวน 1,827 คน (ข้อมูล ณ วันที่ 21 สิงหาคม 2565) การบริหารจัดการแรงงานข้ามชาติที่เป็นระบบ มีประสิทธิภาพ เกี่ยวพันถึงการตรวจสอบการทำงานของแรงงานข้ามชาติ ที่จะต้องปฏิบัติงานโดยยึดหลักความถูกต้องตามกฎหมาย สามารถตรวจสอบได้ โดยเริ่มต้นจากบุคลากรในสังกัดที่ต้องมีความรู้ ความเข้าใจบทบาทอำนาจหน้าที่ มีความเชี่ยวชาญด้านกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติงาน และชัดแจ้งในแนวทางการดำเนินการตามมติครม.ในวาระต่าง ๆ เพื่อให้การปฏิบัติงานมีประสิทธิภาพ บรรลุตามวัตถุประสงค์ และเจตนารมณ์ของกฎหมาย จึงมอบหมายให้กรมการจัดหางานจัดอบรมให้ความรู้เจ้าหน้าที่ด้านการตรวจสอบ ปราบปราม จับกุม และดำเนินคดี นายจ้าง/สถานประกอบการ และคนต่างด้าวผิดกฎหมาย

นายไพโรจน์ โชติกเสถียร อธิบดีกรมการจัดหางาน ได้กล่าวถึงรายละเอียดของการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของเจ้าหน้าที่ว่า นอกจากการปฏิบัติภารกิจให้ลุล่วงแล้ว กรมการจัดหางานยังให้ความสำคัญกับการเพิ่มองค์ความรู้และประสิทธิภาพการปฏิบัติงาน โดยในปีนี้ได้จัดโครงการอบรมเจ้าหน้าที่ด้านการตรวจสอบ ปราบปราม จับกุม และดำเนินคดี นายจ้าง/สถานประกอบการ และคนต่างด้าวผิดกฎหมาย ตามพระราชกำหนดการบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว พ.ศ. 2560 และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2561 ระหว่างวันที่ 22 – 26 สิงหาคม 2565 เพื่อสร้างแนวทางการปฏิบัติงานที่ชัดเจน ถูกต้องเป็นธรรม

โดยมีเป้าหมายอบรม “พนักงานเจ้าหน้าที่” หรือเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานด้านการตรวจสอบ ปราบปราม จับกุม และดำเนินคดีผู้ที่กระทำความผิด ในส่วนกลางและส่วนภูมิภาค จำนวน 100 คน ทั้งในรูปแบบการบรรยายให้ความรู้ข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้อง การฝึกภาคปฏิบัติ การร่วมแลกเปลี่ยนประสบการณ์ที่พบขณะปฏิบัติงานจริง และการสร้างความเข้าใจตามแนวทางการขับเคลื่อนภารกิจหลังจากพ้นกำหนดการขึ้นทะเบียนแรงงาน 4 สัญชาติ (กัมพูชา ลาว เมียนมา และเวียดนาม) ณ โรงแรมโนโวเทล มารีนา ศรีราชา แอนด์ เกาะสีชัง จังหวัดชลบุรี การที่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานด้านการตรวจสอบ ปราบปราม จับกุม และดำเนินคดีผู้ที่กระทำความผิด มีความรู้ ความเข้าใจ ความเชี่ยวชาญในหน้าที่ และปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์ สุจริต โปร่งใส จะเป็นกลไกสำคัญที่ทำให้การขับเคลื่อนนโยบายการบริหารจัดการแรงงานข้ามชาติอย่างเป็นระบบเกิดผลสัมฤทธิ์ได้เป็นอย่างดี.