สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงแบกแดด ประเทศอิรัก เมื่อวันที่ 30 ส.ค. ว่านายมุกตาดา อัล-ซาดร์ นักการศาสนาและนักการเมืองชื่อดังของอิรัก ซึ่งมีจุดยืนต่อต้านตะวันตก และเป็นผู้นำพันธมิตรนักปฏิวัติเพื่อการปฏิรูป หรือ “ไซรูน” ที่เป็นการรวมตัวระหว่างพรรคประชานิยมฝ่ายขวากับพรรคคอมมิวนิสต์ ประกาศเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ขอยุติบทบาททางการเมือง โดยให้เหตุผลเกี่ยวกับความล้มเหลวของฝ่ายชีอะห์ ในการร่วมปฏิรูปทางการเมือง และวิจารณ์ธรรมาภิบาลปัจจุบันของรัฐ “ที่ล้มเหลว”

กลุ่มผู้สนับสนุนและต่อต้านนายมุกตาดา อัล-ซาดร์ ปะทะกันภายในกรีนโซน ของกรุงแบกแดด


หลังจากนั้นไม่นาน อัล-ซาดร์ ประกาศเพิ่มเติมเกี่ยวกับการอดอาหารประท้วง เพื่อแสดงจุดยืนต่อต้านการใช้กำลังของทุกฝ่าย ความเคลื่อนไหวดังกล่าวเกิดขึ้น หลัง อัล-ซาดร์ และพันธมิตร ชนะการเลือกตั้งทั่วไปของอิรัก ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อเดือน ต.ค.ปีที่แล้ว


อย่างไรก็ตาม การจัดตั้งรัฐบาลยังคงไม่สำเร็จ หลายฝ่ายจึงมองว่า ยิ่งเป็นการสะสมความตึงเครียด และความรุนแรงที่ปะทุยิ่งบานปลาย จากการที่ อัล-ซาดร์ ประกาศยุติบทบาททางการเมืองด้วย โดยผู้สนับสนุนและฝ่ายต่อต้าน อัล-ซาดร์ ปะทะกันอย่างหนัก ในหลายพื้นที่ของกรุงแบกแดด รวมถึงกรีนโซนที่เป็นเขตความมั่นคงสูง ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตแล้ว 20 ราย


ขณะที่หลายฝ่ายวิเคราะห์ว่า “การเดินเกม” ของ อัล-ซาดร์ และพันธมิตร ที่เรียกร้องการจัดการเลือกตั้งใหม่ จะเป็นชนวนให้อิรัก ซึ่งเป็นประเทศผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่อันดับสอง ในบรรดาสมาชิกองค์การกลุ่มประเทศผู้ส่งน้ำมันออก (โอเปก) ต้องเผชิญกับสงครามระหว่างนิกายครั้งใหม่ นับตั้งแต่สหรัฐยกทัพเข้ามาในประเทศ เมื่อปี 2546 โดย อัล-ซาดร์ กล่าวด้วยว่า นักการเมืองคนใดก็ตามซึ่งอยู่ในอำนาจ นับตั้งแต่การรุกรานของสหรัฐ ไม่สมควรอยู่ในอำนาจอีกต่อไป.

เครดิตภาพ : REUTERS