เมื่อวันที่ 30 ส.ค. ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวตอบคำถามผู้สื่อข่าวถึงบรรยากาศการประชุม ครม. ว่าไม่มีอะไรเรียบร้อยดี

เมื่อถามถึงกระแสข่าวการเมืองที่วุ่นวาย พล.อ.ประวิตร กล่าวย้ำว่า ไม่มีอะไร 

เมื่อถามว่าจะมีการปรับ ครม. ในช่วงเป็นที่เป็นรักษาการนายกฯ หรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่ายืนยัน ไม่มีการปรับ ครม.

เมื่อถามถึงกรณี ส.ส.ประชาธิปัตย์ขู่ถอนตัว จากกระแสข่าว ส.ส.ภาคใต้ พรรคพลังประชารัฐ เสนอให้ปรับ ครม. โดยให้ริบโควตากระทรวงเกษตรฯ และกระทรวงพาณิชย์ พล.อ.ประวิตร กล่าวย้อนว่า “ไปถาม ส.ส.ใต้ดู เพราะผมไม่ได้พูด”

เมื่อถามย้ำว่าจะปรับครม.หรือไม่ช่วงนี้ พล.อ.ประวิตร กล่าวย้ำว่า ปรับทำไม ยังทำงานได้

ทั้งนี้เป็นที่น่าสังเกตว่า พล.อ.ประวิตร มีสีหน้ายิ้มแย้ม โดยได้หยุดตอบคำถามสื่อมวลชนอย่างไม่มีท่าทีฉุนเฉียวแต่อย่างใด โดยมีนายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม และนายอธิรัฐ รัตนเศรษฐ รมช.คมนาคม เดินมาส่งขึ้นรถ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังการประชุม ครม. สำนักโฆษกประจำสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ได้เผยแพร่ภาพบรรยากาศการประชุมที่มี พล.อ.ประวิตร เป็นประธาน ซึ่งปรากฏภาพชัดเจนว่า พล.อ.ประวิตร ไม่ได้นั่งเก้าอี้นายกฯ โดยปล่อยเก้าอี้นายกฯ ที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นั่งเป็นประธานการประชุมทุกครั้งให้ว่างไว้ โดย พล.อ.ประวิตร ได้นั่งเก้าอี้รองนายกฯ ด้านขวามือ และนายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พลังงาน นั่งเก้าอี้รองนายกฯ ในด้านซ้าย ทั้งนี้ในส่วนของที่นั่ง รมว.กลาโหม มีรายงานแจ้งว่า เจ้าหน้าที่ได้จัดเก้าอี้ของ รมว.กลาโหม ไว้ แต่วันเดียวกันนี้มีเพียง พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รมช.กลาโหม ทำให้เก้าอี้ รมว.กลาโหม ว่างไว้

ทางด้าน นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุม ครม. ถึงบรรยากาศการประชุม ครม. ว่ามีรัฐมนตรีบางคน ร่วมประชุมผ่านทางออนไลน์ ซึ่งเป็นเรื่องปกติ ทุกสัปดาห์มีเช่นนี้ 

ผู้สื่อข่าวถามว่าจากคำสั่งศาลรัฐธรรมนูญ อาจทำให้บางคนรู้สึกว่าขณะนี้มีสุญญากาศในการบริหารประเทศ นายวิษณุ กล่าวว่า ไม่มีสุญญากาศ วันนี้ตนชี้แจงต่อที่ประชุม ครม.ว่าไม่มีสุญญากาศ ครม.คือ ครม.อำนาจเต็ม ไม่ใช่ ครม.รักษาการ และผู้รักษาการแทนนายกฯ มีคนเดียวคือ พล.อ.ประวิตร ตามมาตรา 41 แห่งพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ.2543 ที่ระบุว่า ถ้านายกฯ ไม่อาจปฏิบัติหน้าที่ได้ ให้รองนายกฯ คนหนึ่งเป็นผู้รักษาราชการแทน ตามที่ ครม.มีมติมอบหมาย หากมีรองนายกฯ หลายคน ให้ ครม.เป็นจัดลำดับ หากไม่มีให้ ครม.เลือกรัฐมนตรีขึ้นมา วันนี้ไม่ไปไกลถึงขั้นนั้น เพราะมีการออกคำสั่งสำนักนายกฯ ไว้เมื่อปี 63 จัดลำดับไว้ แต่คำสั่งสำนักนายกฯ ที่จัดลำดับไว้ มีการระบุว่าเวลารักษาราชการนั้นสามารถจัดการอะไรได้หมดทุกอย่าง ยกเว้นการแต่งตั้งและเรื่องงบประมาณจะต้องปรึกษานายกฯ เสียก่อน

วันนี้มีการเสนอคำสั่งสำนักนายกฯ ปรับปรุงคำสั่งดังกล่าว เพราะเป็นไปไม่ได้ที่ พล.อ.ประวิตร เมื่อรักษาการแล้ว หากมีการแต่งตั้งโยกย้ายหรือมีเรื่องงบประมาณ จะต้องไปปรึกษา พล.อ.ประยุทธ์ ที่อยู่ระหว่างหยุดปฏิบัติหน้าที่ จึงต้องแก้คำสั่งตัดประโยคนี้ออกไป เพื่อให้มีอำนาจเต็ม และมีผลย้อนหลังไปถึงวันที่ 24 ส.ค. ที่ผ่านมา

เมื่อถามว่า ในฐานะนักกฎหมายประเมินไว้หรือไม่ว่า ศาลรัฐธรรมนูญจะใช้เวลาพิจารณาประเด็นระยะเวลาการดำรงตำแหน่ง 8 ปีไว้นานเท่าใด นายวิษณุ กล่าวว่า ตอบไม่ถูก ต้องให้เวลาสำหรับให้ พล.อ.ประยุทธ์ ชี้แจง 15 วัน และทราบว่าศาลรัฐธรรมนูญให้คนอื่นชี้แจงด้วยเช่นกัน เมื่อครบ 15 วันแล้ว เมื่อผู้ชี้แจงพูดกันหมดแล้ว จะเริ่มมองเห็นแล้วว่าจะใช้เวลานานเท่าใด ซึ่งไม่ควรจะนาน เพราะไม่มีการสืบพยาน