ในยุคปัจจุบันมีการใช้วีดีโอถ่ายทอดคอนเทนต์ออกมาเพื่อลง สื่อ โฆษณาต่างๆในโลกโซเชี่ยลจำนวนมาก หากคลิปไหนที่มีเนื้อหา และการตัดต่อวีดีโอที่น่าสนใจ น่าดึงดูด ก็จะส่งผลให้มีคนเข้ามาดูวีดีโอกันเป็นจำนวนมากและถูกพูดถึงได้อย่างรวดเร็ว หรือเรียกว่า Viral Marketing ซึ่งก็ที่จะทำให้วีดีโอไวรัลนั้น ไม่ใช่เรื่องง่าย ต้องมีองค์ประกอบหลายๆอย่างเข้าด้วยกัน หนึ่งสิ่งสำคัญนั่นก็คือ การตัดต่อวีดีโอ ทำยังไงให้ถูกใจและโดนใจ ให้คนกดเข้ามาดูวีดีโอของเรา

  1. Standard Cut เป็นการเชื่อมกันของวีดีโอ อาจเป็นระหว่างฉากหรือจากฉากหนึ่งไปอีกฉากหนึ่ง การตัดต่อวีดีโอ เทคนิคนี้จะใช้เมื่อเราต้องการตัดจากคลิปหนึ่งไปยังอีกคลิปหนึ่ง โดยไม่มีการใช้ transition ใดๆ หรือจะตัดต่อวีดีโอจากจุดสิ้นสุดของคลิปหนึ่ง ไปยังจุดเริ่มต้นอีกคลิปหนึ่ง เน้นความเรียบง่าย ตรงไปตรงมา เหมาะสำหรับการตัดต่อวีดีโอที่ไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนรูปแบบ ไม่เน้นการสื่อความหมายของภาพ
  2. L-Cut & J-Cut L-Cut คือการตัดต่อวีดีโอที่เราจะได้ยินเสียงจากช็อตก่อนหน้าแม้ว่าเราจะย้ายไปถ่ายภาพอื่นแล้วก็ตาม หมายความว่าในขณะที่ผู้ชมกำลังดูคลิป B แต่ยังคงได้ยินเสียงจากคลิป A อยู่
  3. J-Cut เป็นหลักตรงกันข้ามกับ L-Cut วิธีนี้เราได้ยินเสียงก่อนดูวีดีโอ ดังนั้นผู้ชมจึงดูคลิป A แต่ยังคงได้ยินเสียงจากคลิป B การตัดต่อวีดีโอแบบนี้มักใช้บ่อยในการสร้างภาพยนตร์และวิดีโอทุกรูปแบบ แต่คุณจะเห็นได้บ่อยในเนื้อหาที่มีการสัมภาษณ์ การตัดต่อวีดีโอด้วยเทคนิค J-Cut & L-Cut จะเหมาะกับฉากที่เป็นบทสนทนา เพราะจะทำให้บทสนทนาดูเป็นธรรมชาติ หากเราตัดไปที่ตัวละครเฉพาะตอนที่เขากำลังพูดฉากนั้น อาจจะให้ความรู้สึกที่ไม่มีความเป็นธรรมชาติอยู่เลย
  4. Cutting on Action คือ การตัดต่อวีดีโอจากภาพหนึ่ง ไปยังภาพหนึ่ง เป็นการแสดงการเคลื่อนไหวที่ต่อเนื่องกัน อาจมีขนาดภาพ หรือมุมกล้องที่แตกต่างกันได้ เป็นเทคนิคที่เน้นการสร้างความต่อเนื่องของเหตุการณ์ (Continues) ให้มีความหลากหลาย เพื่อสร้างความเข้าใจในเรื่องราว และเหตุการณ์
  5. Cutaways เป็นการตัดต่อวีดีโอจากภาพหลักไปยังภาพที่แทรกเข้ามาในวีดีโอ แล้วตัดย้อนกลับไปที่ภาพหลักอีกครั้ง ซึ่งสามารถเป็นภาพที่มีความยาว หรือมีเพียงแค่เฟรมเดียวก็ได้ การตัดต่อวีดีโอเทคนิคนี้ ใช้เพื่อการย่อหรือข้ามเวลาในฉากที่ความยาวค่อนข้างมาก เพื่อเปรียบเทียบ ให้ข้อมูลเพิ่มเติม และแสดงปฏิกิริยาที่มีต่อเหตุการณ์หลัก โดยภาพที่แทรกเข้ามานั้นจะต้องมีความเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์หลักที่เราสนใจ
  6. Match Cut Match Cut คือการตัดต่อวีดีโอจากภาพหนึ่งไปเป็นภาพที่คล้ายกัน โดยการจับคู่ หรือ Match กัน ซึ่งสามารถแบ่งออกได้เป็น
    1. Action – Movement ที่อาศัยการเชื่อมต่อของทิศทาง และเคลื่อนไหว
    2. Composition – Graphics คือ การเชื่อมต่อของสี และแสงตัดรูปแบบ หรือตัดรูปร่าง
    3. Sound ที่ใช้เสียงเดียวกัน ที่มีความแตกต่างของระดับเสียง เช่น เป็นเสียงจากเพลงประกอบ แต่เมื่อตัวแสดงถอดหูฟัง ก็เป็นเสียงที่เปิดจากเครื่อง ซึ่งเป็นเพลงเดียวกัน โดยใช้องค์ประกอบจากฉากก่อนหน้าเพื่อนำไปยังฉากต่อไปอย่างลื่นไหล เพื่อสร้างความรู้สึกลึกของการเชื่อมต่อระหว่างสองเหตุการณ์ที่แตกต่างกันทั้งเหตุการณ์

ทั้งหมดนี้ก็เป็นเทคนิคดีๆ ที่จะนำมาปรับใช้กับการตัดต่อวีดีโอให้เหมาะสมกับฉาก สถานการณ์ต่างๆในวีดีโอ หลายคนอาจจะไม่ถนัดหรืออยากได้ผู้เชี่ยวชาญมาช่วย ก็สามารถหาได้ไม่ก็ยาก เพราะตอนนี้ Fastwork มีฟรีแลนซ์ชำนาญในเรื่องตัดต่อวีดีโอให้คุณได้เลือกใช้บริการแล้ว ซึ่งจะทำให้คุณมั่นใจในผลงานตัดต่อวีดีโอ ถือว่าเป็นตัวช่วยที่ดีเลยก็ว่าได้

สามารถเข้ามาเลือกดูฟรีแลนซ์ตัดต่อวีดีโอ มืออาชีพ ของทาง Fastwork ก่อนได้ที่ https://fastwork.co/videography

ที่มา Website: Beartheschool, Vdocon, Shutterstock