”สายสืบสุขภาพ” สัปดาห์นี้ ได้พบข้อมูลเกี่ยวกับการดื่มน้ำเพื่อลดความอ้วนที่หลายคนอาจเคยได้ยินมาทั้งน้ำอุ่นและน้ำเย็นอาจลดความอ้วนได้

ดร.อลัน แมนเดล นายแพทย์ชาวอเมริกัน บอกถึงความแตกต่างระหว่างน้ำอุ่นและน้ำเย็นที่ทำให้เราเข้าใจมากขึ้น โดยบอกว่า ”น้ำอุ่น”ช่วยทำให้ร่างกายผ่อนคลาย ทำให้การย่อยอาหารดีขึ้น และทำให้ความดันโลหิต การหายใจ และหารเต้นของหัวใจลดลง การนอนหลับก็ดีขึ้น แต่น้ำอุ่นกลับชะล้างไขมันออกจากผิว แตกต่างจากน้ำเย็นที่ยังคงไขมันเคลือบผิวไว้ และทำให้เลือดไปเลี้ยงผิวหนัง ทำให้ดูสุขภาพดีแบบดป็นธรรมชาติ

นอกจากนี้ ”น้ำเย็น” ยังช่วยเพิ่มระดับพลังงาน กระตุ้นตัวจับอุณหภูมิที่อยุ่ใต้ผิวหนัง เมื่อตัวจับนี้ทำงาน ระบบจะเพิ่มอัตรการเต้นของหัวใจ เพิ่มการหลั่งฮอร์โมนอะดรีนาลินทั่วร่างกาย ทำให้ร่างกายตื่นตัว มีพลังมากขึ้น  โดย”น้ำเย็น” ยังเกี่ยวพันโดยตรงกับระบบภูมิคุ้มกันที่แข็งแรงเพราะหากเราอาบน้ำด้วยน้ำเย็น 1-2 นาทีแรกในการอาบน้ำ จำนวน 3 ครั้งต่อสัปดาห์ และทำจนเป็นนิสัย จะทำให้ร่างกายมีเซลล์เม็ดเลือดขาวมากกว่าคนที่ไม่อาบน้ำด้วยวิธีนี้

การดื่มน้ำเย็นจะช่วยลดความอ้วนได้อย่างไร?

ดร.อลันบอกว่า การดื่ม”น้ำเย็น”ช่วยกระตุ้นการเผาผลาญ โดยจะเผาแคลอรี่ 8 หน่วยต่อการดื่มน้ำเย็น 1 ถ้วย หากดื่ม 8 ถ้วยจะเผาผลาญแคลอรี่ได้ 50-75 แคลอรี่ และถ้ากินน้ำแข็งด้วยก็จะเพิ่มการเผาผลาญแคลอรี่ให้มากขึ้น! เนื่องจากร่างกายจะคงความสมดุลย์และกระตุ้นการเผาผลาญให้อุณหภูมิอยู่ที่ 36.5 องศาอย่างสม่ำเสมอนั่นเอง

แม้การดื่ม”น้ำเย็น”ในทรรศนะของดร.อลันจะช่วยกระตุ้นการเผาผลาญเพิ่มการเผาไขมัน แต่การดื่ม”น้ำเย็น”วิธีเดียวเพื่อลดความอ้วนอาจไม่เหมาะสม เนื่องจากการลดความอ้วนยังต้องขึ้นกับการรับประทานอาหารที่ดี การออกกำลังกาย การนอนหลับมีคุณภาพและไม่เครียด หากทำได้ครบและถูกวิธี จึงได้ผลลัพธ์ที่ถูกต้องมากกว่า

ขอบคุณข้อมูลจากดร.อลัน แมนเดล
สายสืบสุขภาพ : ศศิวรรณ์ เลิศวิริยะประภา