เมื่อวันที่ 1 ก.ย. พล.ต.ต.พุฒิเดช บุญกระพือ ผบก.ปอศ. พ.ต.อ.ภาดล จันทร์ดอน ผกก.5 บก.ปอศ. พ.ต.ต.วรวุฒิ คงรักษา สว.กก.5 บก.ปอศ. นำกำลังเจ้าหน้าที่ กก.5.บก.ปอศ. เข้าตรวจค้น 4 จุด ใน กรุงเทพมหานคร จ.นนทบุรี และ จ.ศรีสะเกษ จับกุม นายปัณณวิชญ์  ชัยศรี อายุ 36 ปี น.ส.วาสนา หมื่นสมบูรณพงษ์ อายุ 25 ปี น.ส.ชลธิชา จันทร์สี่ทิศ อายุ 26 ปี นายอัฐพล โซ๊ะพิทักษ์ อายุ 30 ปี น.ส.ปริตตา เกรียงไกรชัย อายุ 30 ปี ตามหมายจับศาลอาญา ข้อหาร่วมกันเอาไปเสียซึ่งเอกสารของผู้อื่นในประการที่น่าจะเกิดความเสียหาย ร่วมกันใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ของผู้อื่นโดยมิชอบในประการที่น่าจะก่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้อื่น, ร่วมกันใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ที่ผู้ออกได้ออกให้แก่ผู้มีสิทธิใช้เพื่อใช้ประโยชน์ในการชำระค่าสินค้า ค่าบริการ หรือหนี้อื่นแทนการชำระด้วยเงินสด และร่วมกันลักทรัพย์

พ.ต.อ.ภาดล เปิดเผยว่า สืบเนื่องจาก กก.5.บก.ปอศ. ได้รับแจ้งจากธนาคารว่า มีลูกค้าบัตรเครดิตจำนวนมากร้องเรียน ถูกเรียกเก็บค่าสินค้าและบริการโดยไม่ได้เป็นคนทำรายการดังกล่าวแต่อย่างไร บางรายถูกเรียกเก็บเงินทั้งที่ไม่ได้ใช้จ่ายจริงเป็นยอดหลายหมื่นบาท มูลค่าความเสียหายรวมทั้งสิ้น 139,002.80 บาท สำหรับแผนประทุษกรรมของคนร้ายกลุ่มนี้จะใช้เงินสกุลดิจิทัล ซื้อข้อมูลบัตรเครดิตของผู้อื่น จาก ดาร์กเว็บ ซึ่งข้อมูลที่ได้มาจะมีเลขหน้าบัตรเครดิต 16 หลัก, หมายเลขรหัสหลังบัตร (CVV)  และวันหมดอายุบัตร   

ผกก.5.บก.ปอศ. กล่าวต่อว่า เมื่อได้ข้อมูลบัตรเครดิตแล้ว คนร้ายจะตระเวนเปิดเช่าห้องตามโรงแรมใช้เป็นสถานที่กรอกข้อมูลบัตรเครดิตของผู้อื่นชำระค่าบริการและซื้ออาหาร และสินค้าผ่านเว็บไซต์ให้บริการต่างๆ รวมทั้งเติมเงินออนไลน์เข้ากระเป๋าอิเล็กทรอนิกส์ของตนเอง แต่ละครั้งจะเติมเงินไม่มากหลักร้อยถึงหลักพันบาท เพื่อไม่ให้เจ้าของบัตรเครดิตรู้ตัว แต่จะเติมแบบถี่ๆ อย่างต่อเนื่อง โดยนำเงินของผู้เสียหายไปเล่นพนันออนไลน์ และถอนเงินสดออกมาใช้จ่ายส่วนตัว

จากการสืบสวนพบว่าขบวนการนี้มีผู้ร่วมกระทำผิด 8 ราย เจ้าหน้าที่จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานขอศาลอาญาออกหมายจับไว้ กระทั่งตามจับกุมตัวได้ 5 ราย สอบสวนผู้ต้องหาเบื้องต้น บางรายให้การรับสารภาพ บางรายภาคเสธอ้างว่าเป็นเจ้าของบัญชีจริง แต่ไม่มีส่วนรู้เห็นกับคนร้าย จึงนำตัวส่ง กก.5.บก.ปอศ. ดำเนินคดี พร้อมเร่งขยายผลตามจับกุมผู้ต้องหาอีก 3 รายต่อไป.