เมื่อเวลา 19.30 น. วันที่ 7 ก.ย. นาย​ชัชชาติ​ สิทธิ​พันธุ์​ ผู้ว่าราชการ​กรุงเทพ​มหานคร​ พร้อมด้วย นายอรรถเศรษฐ์ เพชรมีศรี ที่ปรึกษาผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ลงพื้นที่มาติดตามสถานการณ์น้ำ บริเวณวงเวียนบางเขน และคลองลาดพร้าว ภายหลังจากที่เมื่อวาน (6 ก.ย.) ได้ลงพื้นที่และพบมีน้ำท่วม การจราจรติดขัด และเมื่อคืนยังมีฝนตกลงมาอย่างหนัก จนทำให้มีน้ำท่วมขัง

โดยทางผู้ว่าฯ ได้เดินสำรวจการระบายน้ำ และเครื่องสูบน้ำ และสั่งการให้ดูแลอุปกรณ์ก่อสร้างต่างๆ ที่กีดขวางเส้นทางสัญจรให้เก็บให้เรียบร้อย และสำรวจระดับน้ำในคลองลาดพร้าว ซึ่งในวันนี้ฝนไม่ได้ตกลงมาซ้ำ จึงทำให้ระดับน้ำลดต่ำลงจากเมื่อวานประมาณ 30-40 เซนติเมตร​ แต่ก็ยังคงเสมอตลิ่ง ต้องเฝ้าระวังอย่างต่อเนื่อง รวมไปถึงเดินพบปะพูดคุยให้กำลังใจกับชาวบ้านริมคลอง ใช้เวลาในการลงพื้นที่กว่า 1 ชั่วโมงครึ่ง

ทางผู้ว่าฯ กล่าวว่า แม้ฝนจะยังไม่ตก ก็ยังไม่มีอะไรแน่นอน และคลองลาดพร้าวก็ยังระบายน้ำได้ไม่ดี ก็ขอให้ฝนอย่าเพิ่งมา โดย กทม. ยังต้องเตรียมพร้อมเฝ้าระวัง สำหรับย่านบางเขน เป็นจุดเปราะบาง หากมีฝนตกลงมาเพียง 40-50 มิลลิเมตร ก็จะมีผลกระทบทันที เพราะน้ำในคลองเต็มทั้งหมด ซึ่งได้เร่งติดตั้งเครื่องสูบน้ำที่ได้รับมาจากกรมชลประทาน ทั้ง 21 เครื่อง ตามคลองหลักและคลองย่อย สำหรับแถววงเวียนบางเขน จะมีปัญหาอีกอย่างคือท่อตัน มีการก่อสร้าง ทำให้เศษวัสดุลงไปบังทางระบายน้ำ คืนนี้ก็จะมีการมาลอกท่อเพิ่ม

นายชัชชาติ กล่าวอีกว่า ทั้งนี้ได้มีการปรับแผนการทำงานเพิ่มเติม โดยให้พยากรณ์สภาพปัญหา และประชาสัมพันธ์เส้นทางให้ประชาชน เพื่อหลีกเลี่ยงเส้นทางที่มีปัญหาน้ำท่วม และปรับการสื่อสารกับประชาชน ให้ฝ่ายประชาสัมพันธ์ของ กทม. เข้มแข็งขึ้น ไม่ใช่เอาข่าวฝากอย่างเดียว แต่ต้องพัฒนาช่องทางสื่อสารของตนเองด้วย เพราะถ้าฝากข่าวนักข่าวอย่างเดียว ไม่รู้ประชาชนจะได้ฟังเมื่อไหร่ จึงต้องเสริมเรื่องนี้เพื่อให้ประชาชนได้รับรู้ได้ทันที แม้ฝนจะไม่ได้ตกทั่วกรุงเทพฯ แต่ กทม. ก็จะไม่ประมาท ต้องดูแลประชาชน ก็ถือเป็นบทเรียนในการพัฒนาให้ดีขึ้น

ส่วนกรณีที่ สภา กทม. มีการตั้งคำถามว่า ผู้ว่าชัชชาติ ลงไปดูน้ำท่วมทำไมนั้น นายชัชชาติ ระบุว่า ลงพื้นที่มาให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ มาดูให้เห็นปัญหา เพื่อนำไปทำแผนระยะยาว เพราะปัญหาน้ำท่วมไม่ได้มีแค่การระบายน้ำ การสูบน้ำ แต่ต้องบูรณาการแก้ปัญหาทั้งการขนส่งคน การจราจร เรื่องการให้ข้อมูลข่าวสาร การซ่อมรถต่างๆ ซึ่งต้องมีคนมาดูภาพรวม ถ้าอยู่ห้องแอร์คงไม่เห็น แต่ไม่ได้มาบัญชาการ มาดูเพื่อสังเกตและถาม เพราะหน้างานเป็นเหมือนมดตัวหนึ่งที่ทำงานร่วมกัน เจอรถเสียก็ช่วยเข็น ทำหน้าที่เหมือนคนทั่วไป ไม่ได้เป็นผู้บริหาร แต่มาฟังมาดูปัญหา เจอปัญหาอะไรก็ค่อยๆ แก้ ปัญหาพวกนี้ที่เป็นปัญหาปลีกย่อยอยู่บนออฟฟิศคงไม่ได้เห็น รวมถึงปัญหาการสื่อสารหน้างานด้วย และทุกอย่างก็เป็นบทเรียน เราไม่ได้เก่งทุกอย่าง ต้องค่อยๆ พัฒนา ต้องมีการพัฒนา อย่าให้ซ้ำซากเหมือนที่ผ่านมา