เมื่อวันที่ 29 เม.ย. รายงานข่าวจากศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผยถึงกรณี การจ่ายเงินบำเหน็จบำนาญข้าราชการ กทม. เพิ่มขึ้น 25 เปอร์เซ็นต์ ให้กับข้าราชการที่เข้าบรรจุรับราชการก่อน พ.ศ.2535 ตามระเบียบกระทรวงมหาดไทย ว่าด้วยกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการส่วนท้องถิ่น จนทำให้มีปัญหากระทบต่อระบบการเงินของกองทุนบำเหน็จบำนาญ ว่า เมื่อปี2554 ได้มีข้าราชการกทม.บางส่วนไปร้องเรียนต่อกระทรวงมหาดไทย ให้มีการออกระเบียบเพื่อให้กทม.กลับมาจ่ายเงิน 25 เปอร์เซ็นต์ ให้แก่ข้าราชการ โดยระบุว่า กทม.เป็นราชการส่วนท้องถิ่น จะต้องได้รับเงินบำนาญเช่นเดียวกับข้าราชการส่วนท้องถิ่นอื่น ๆ ซึ่งทางกระทรวงมหาดไทยได้เห็นชอบระเบียบดังกล่าว และมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ออกระเบียบเมื่อปี 2554 โดยกทม.จะจ่ายเงินเพิ่มเติมร้อยละ 25 ของเงินบำนาญ ให้แก่ข้าราชการกทม. ที่รับราชการก่อนปี35 ที่มีอยู่ประมาณ 15,000 คน ตั้งแต่วันออกระเบียบ โดยไม่มีการจ่ายย้อนหลัง

อย่างไรก็ตาม การออกระเบียบดังกล่าว ทำให้กองทุนบำเหน็จบำนาญของกทม.มีเงินไม่พอจ่ายต่อข้าราชการบำนาญ เนื่องจาก ต้องจ่ายเงินเพิ่ม 25 เปอร์เซ็นต์ ให้แก่ข้าราชครูกทม. ด้วย ซึ่งโดยปกติ เงินบำเหน็จบำนาญข้าราชการครู กทม.จะได้รับจากรัฐบาล 100 เปอร์เซ็นต์ แต่ระเบียบดังกล่าวเป็นของกทม. รัฐบาลจะไม่สนับสนุนเงินเพิ่มเติมในส่วนนี้ ส่งผลให้ เงินกองทุนบำเหน็จบำนาญ ไม่พอจ่ายต้องขอยืมจากเงินสะสมของกทม. ซึ่งในอนาคต คาดว่า กองทุนฯจะต้องประสบปัญหาดังกล่าวไปเรื่อยๆ ต่อไปอีก50 ปี จนกว่าข้าราชการที่รับราชการก่อนปี35 จะหมดไป โดยกองทุนบำเหน็จบำนาญ ได้รับเงินเข้ากองทุนจากการหักเงิน 3 เปอร์เซ็นต์ จากเงินเดือนของข้าราชการกทม.ทุกคน

รายงานข่าวกล่าวต่อว่า ขณะนี้ มีข้าราชการที่เข้ารับราชการหลังปี 35 รู้สึกไม่เป็นธรรมกับระเบียบดังกล่าว เนื่องจากจะต้องถูกหักเงินเดือน 3 เปอร์เซ็นต์ เพื่อไปจ่ายบำนาญเพิ่ม 25 เปอร์เซ็นต์ ให้กับข้าราชการที่บรรจุก่อนปี 35 แต่ข้าราชการที่บรรจุหลังปี 35 จะไม่ได้รับเงินเพิ่มเติม 25 เปอร์เซ็นต์นี้แต่อย่างใด ซึ่งเห็นว่าไม่เป็นธรรมต่อข้าราชการรุ่นใหม่อย่างยิ่ง จึงเตรียมจะหาแนวทางยกเลิกการใช้ระเบียบนี้ โดยอาจมีการยื่นฟ้องศาลต่อไป อย่างไรก็ตามถือว่าระเบียบดังกล่าว ไม่ชอบด้วยกฎหมาย เนื่องจากข้าราชการกทม.ต่างก็ได้รับสวัสดิการ มีศักดิ์และสิทธิเช่นเดียวกับข้าราชการกระทรวง กรม ต่างๆ

ขณะที่ ข้าราชการครูกทม. ก็มีศักดิ์ และสิทธิเช่นเดียวกับข้าราชการครูอื่นๆ ทั่วไป จึงไม่สมควรได้รับเงินเพื่อเติม25 เปอร์เซ็นต์ในส่วนนี้ ประกอบกับหากให้มีระเบียบนี้ใช้ต่อไป จะมีปัญหาต่อการเงินอย่างมากซึ่งขณะนี้เงินกองทุนเหลืออยู่เพียง 555 ล้าน ซึ่งปีนี้ได้ยืมเงินสะสมกทม.มาเพิ่มอีก 900 ล้าน ขณะที่ปีต่อไปจะมีเงินหัก3 เปอร์เซ็นต์เข้ากองทุกประมาณ 2,000 ล้าน ก็ต้องไปใช้หนี้ 900 ล้าน เงินจะเหลือประมาณ กว่า 1 พันล้านซึ่ง ไม่พอจ่าย ก็ต้องกู้เพิ่มอีก เท่ากับ เป็นหนึ้ไม่รู้จบ

สำหรับกรณีที่ข้าราชการกทม.มีการฟ้องร้องต่อศาลปกครองกลาง ให้กทม.จ่ายเงินเพิ่มเติม 25 เปอร์เซ็นต์ ย้อนหลังตั้งแต่ข้าราชการเกษียณนั้น ศาลได้ยกฟ้องคดีดังกล่าวไปแล้วบางส่วน เนื่องจากกฎหมายต่าง ๆ จะมีมีผลการบังคับใช้ย้อนหลัง.