สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงเคียฟ ประเทศยูเครน เมื่อวันที่ 11 ก.ย. ว่า บริษัทอีเนอร์โกอะตอม ซึ่งเป็นหน่วยงานรัฐวิสาหกิจด้านพลังงานนิวเคลียร์ของยูเครน เผยแพร่แถลงการณ์ เมื่อวันอาทิตย์ เกี่ยวกับสถานการณ์ที่โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ ซาโปริชเชีย ซึ่งเป็นโรงไฟฟ้าขนาดใหญ่ที่สุดทั้งในยูเครนและในยุโรป ตั้งอยู่ที่เมืองซาโปริชเชีย ซึ่งเป็นเขตอิทธิพลของรัสเซีย ริมแม่น้ำไนเปอร์ ทางตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศ ว่าจำเป็นต้องปิดทำการเตาปฏิกรณ์ตัวสุดท้ายซึ่งเป็นตัวที่ 6 ด้วยเหตุผลด้านความปลอดภัย เนื่องจากความกังวลเรื่องการรั่วไหลของกัมมันตรังสี

บรรยากาศด้านนอก โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ ซาโปริชเชีย


ทั้งนี้ การทำงานของโรงไฟฟ้าซาโปริชเชียเผชิญกับอุปสรรคนการดำเนินการ ตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้ว ส่งผลให้ไม่สามารถเชื่อมต่อกับระบบไฟฟ้าภายนอกที่เหลืออยู่เพียงเส้นเดียว แม้ระบบจ่ายกระแสไฟฟ้าสำรองยังคงทำหน้าที่ได้ตามปกติ


ขณะที่ ประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครน เดินหน้าเรียกร้องการกำหนดให้พื้นที่รอบโรงไฟฟ้าซาโปริชเชีย เป็นเขตปลอดทหาร นอกจากนี้ มีรายงานเพิ่มเติมด้วยว่า โรงไฟฟ้าซาโปริชเชีย มีเชื้อเพลิงเพียงพอใช้งานอีกประมาณ 10 วันเท่านั้น


ด้าน นายราฟาเอล กรอสซี ผู้อำนวยการทบวงการพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศ ( ไอเออีเอ ) นำคณะผู้เชี่ยวชาญลงพื้นที่โรงไฟฟ้าซาโปริชเชีย เมื่อต้นเดือนนี้ และตอนนี้ยังมีเจ้าหน้าที่ไอเออีเออยู่ในโรงไฟฟ้าอีก 2 คน ซึ่งทุกฝ่ายยังคงกังวลเรื่องความปลอดภัย.

เครดิตภาพ : REUTERS