เรียกได้ว่าช่วงนี้ มักมีบรรยากาศการรับปริญญาออกมาให้เราเห็นกันเรื่อย ๆ ทั้งวิธีการแสดงความยินดีที่อลังการ ชวนขำท้องแข็ง หรือแม้แต่โมเมนต์สุดซึ้งพาน้ำตาไหล เพราะกว่าจะเรียนจบแต่ละครั้งนั้น ก็เรียกได้ว่าช่างยาวนานจริงๆ หนำซ้ำยังคงต้องรอรับปริญญา ใบที่จะประกาศออกไปว่า ฉันประสบความสำเร็จในการเรียนแล้ว ซึ่งเชื่อว่าเป็นวันที่ใครหลายคน เฝ้านับวันรอให้มาถึงโดยเร็ว เหมือนกับสาวผู้ใช้เฟซบุ๊กรายนี้ ที่เธอนั่งนับวันรอกว่า 7 ปี เพื่อเป็นเครื่องพิสูจน์ให้ครอบครัวเห็นว่าเธอทำได้แล้ว

โดยกรณีนี้กลับเป็นเรื่องน่าผิดหวัง เนื่องจากเตรียมทุกอย่าง เพื่อวันที่เธอรอคอยมาทั้งชีวิต ทั้งวางแผนการเดินทางจาก สุราษฎร์มากรุงเทพฯ และหน้าผมเพื่อให้สวยสง่าเหมาะสำหรับจะเป็นรูปถ่ายที่อยู่กับเราตลอดไป ดันพาเฟลสุดๆ เมื่อเธอกลับต้องมาเจอกฎระเบียบทางมหาวิทยาลัยที่ฟังดูช่างไร้เหตุผลสุดๆ

ซึ่งได้เผยว่า “สามรูปแรกคือ ผมที่บิวจ้างช่างทำ เพราะบิวเคยเห็นรุ่นพี่เขาไม่ใส่วิกทำผมแบบนี้ได้ บิวก็จ้างช่างทำ ช่างก็ทำให้ทนเจ็บมาก เพราะเอาแบบเหนียบสุดๆ พอตอนเข้าแถวตรวจ ก็มีอาจารย์​มาตรวจ ละบอกผ่านหมดยกเว้นผม ต้องตัด เขาก็ถามว่าตัดไหม คือบิวมาซ้อมย่อย ซ้อมรับ ตั้งแต่เดือนสิงหา บินไปกลับเหนื่อย​มาก สู้มาตลอด สุราษฎร์​-กทม. บิวก็ต้องยอมให้เขาตัด เพราะคุณ​ยายอยากเห็นบิวรับปริญญา​ บิวสู้มาขนาดนี้ ให้บิวมายอมแพ้ คงไม่ใช่ แต่ปัญหามีทางแก้เยอะมาก กลับไม่แก้ จะตัดผมอย่างเดียวเลย บิวสู้มาขนาดนี้คงไม่ถอย แต่ไม่คิดว่าเขาจะตัดแรงแบบนี้

นอกจากนี้เจ้าตัวยังเผยความรู้สึกหลังโดนตัดผมไปว่า “ยอมรับ สภาพจิตใจแย่มาก นั่งไม่พูดไม่จากกับใคร เฟลมากกก และเป็นการรอคอย 7 ปี จบตั้งแต่ปี 59 พฤศจิกายน​ แต่วันนี้ควรดีใจไม่ใช่เสียใจแบบนี้ไหม วันที่เด็กควรดีใจกับร้องไห้ มันทำถูกแล้วใช่ไหมคะแบบนี้ อยากถามความคิดเห็น พลังโซเชียล”

ภายหลังจากที่โพสต์ถูกเผยแพร่ออกไปบนโลกออนไลน์ ทำให้ชาวเน็ตหลายคนแห่เข้ามาคอมเมนต์วิพากษ์วิจารณ์มหาวิทยาลัยดังกล่าวที่มีกฎระเบียดสุดงง เนื่องจากในรูปแรกที่สาวเจ้าของโพสต์แนบมานั้น จะเห็นได้ว่าทรงผมของเธอเก็บได้เรียบร้อย มองดูแล้วก็เหมือนกับถูกกฎตามระเบียบทั่วๆไป ทั้งสีผมดำไม่ทำทรงผมม้วนลอน หรือแม้กระทั่งปล่อยยาวพะรุงพะรัง แต่เธอดันกลับถูกสั่งตัดผมก่อนได้เข้ารับปริญาด้วยเหตุผลจากที่เธอนั้น มีเพศสภาพชายหัวใจหญิง จึงถูกติ ให้ตัดจากทรงผมยาวเป็นทรงผมชายสั้น

อย่างไรก็ตาม ชาวเน็ตเข้ามาคอมเมนต์สนั่น ซึ่งพากันเปรียบเทียบจากเมืองนอกที่ไม่มีกฎไร้สาระ เพราะนี้เปรียบเสมือนงานแสดงความยินดีกับเส้นทางที่ประสบความสำเร็จ โดยส่วนใหญ่มองว่า “การศึกษาหาความรู้และสติปัญญามันอยู่ในสมองในกระโหลก ไม่ได้อยู่ที่ทรงผมเลย ตัดแล้วทำให้ดูดีขึ้นยังไง ยิ่งดูแย่กว่าเดิมอีก ควรพิจารณาเลิกแต่งตามเพศสภาพได้แล้ว” ซึ่งบางกลุ่มก็ออกความเห็นคล้ายกันว่า “ไม่แปลกใจทำไมประเทศไทย ไม่เจริญก้าวหน้าทันเพื่อนบ้านสักที”