เมื่อวันที่ 12 ก.ย. น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่าสำนักงานประกันสังคม (สปส.) ได้แจ้งเตือนผู้ประกันตนตามมาตรา 33  และมาตรา 39 ซึ่งมีอายุครบ 55 ปี และปัจจุบันมีสถานะสิ้นสุดการเป็นผู้ประกันตนแล้ว ให้ตรวจสอบสิทธิการได้รับบำเหน็จ หรือบำเหน็จชราภาพ พร้อมกับยื่นขอรับเงิน ณ สำนักงานประกันสังคมพื้นที่ใกล้บ้าน หรือสำนักงานประกันสังคมจังหวัด  สำหรับช่องทางการตรวจสอบสิทธิและยอดเงินสมทบชราภาพนั้น หากไม่สะดวกเดินทางไปยังสปส. ผู้ประกันตนสามารถตรวจสอบผ่านช่องทางออนไลน์ได้แก่ 1.เว็บไซต์ของ สปส. www.sso.go.th  2.แอพพลิเคชั่น “SSO Connect” สามารถดาวน์โหลดได้ทั้งระบบไอโอเอสและระบบแอนดรอยด์ 3.ไลน์ออฟฟิเชียลของ สปส. @ssothai  

เมื่อตรวจสอบและทราบสิทธิที่จะได้รับแล้ว สามารถยื่นขอรับบำเหน็จ หรือบำเหน็จชราภาพ ได้ที่สำนักงานประกันสังคมพื้นที่ใกล้บ้าน หรือสำนักงานประกันสังคมจังหวัด โดยใช้เอกสารเป็นบัตรประชาชนตัวจริง และกรอกใบคำขอ สปส. 2-01 หรือ SSO. 2-01 พร้อมแนบสำเนาสมุดบัญชีเงินฝากธนาคารประเภทออมทรัพย์ที่จะรับโอนเงิน แต่หากผู้ประกันตนมีบัญชีพร้อมเพย์ที่ใช้เลขบัตรประชาชนผูกกับบัญชีออมทรัพย์ สามารถแจ้งขอรับเงินผ่านบัญชีพร้อมเพย์พร้อมการยื่นคำร้องได้โดยไม่ต้องใช้สำเนาสมุดบุญชีธนาคาร

ส่วนสิทธิของผู้ประกันตนกรณีชราภาพนั้น แยกเป็น 2 กรณี คือ 1.รับบำเหน็จชราภาพ  ได้แก่ ผู้จ่ายเงินสมทบน้อยกว่า 12 เดือน ซึ่งจะได้รับเงินบำเหน็จชราภาพเท่ากับจำนวนเงินสมทบเฉพาะส่วนของผู้ประกันตนที่จ่ายให้กับสปส. แต่หากจ่ายเงินสมทบตั้งแต่ 12 เดือนขึ้นไปแต่ไม่ถึง 180 เดือน จะได้รับเงินบำเหน็จชราภาพเท่ากับจำนวนเงินสมทบส่วนของผู้ประกันตน รวมกับส่วนของนายจ้างที่จ่ายเงินสมทบให้และผลประโยชน์ตอบแทนประจำปี  2.กรณีรับบำนาญชราภาพ ได้แก่ ผู้ประกันตนที่จ่ายเงินสมทบตั้งแต่ 180 เดือน จะได้รับเงินบำนาญชราภาพเป็นรายเดือนตลอดชีวิต ในอัตราร้อยละ 20 ของเงินค่าจ้าง (ไม่เกิน 15,000 บาท) เฉลี่ย 60 เดือนสุดท้าย ก่อนความเป็นผู้ประกันตนสิ้นสุดลง ส่วนกรณีที่จ่ายเกินกว่า 180 เดือน จะเพิ่มอัตราการจ่ายเงินบำนาญอีกร้อยละ 1.5 ของระยะเวลาการจ่ายเงินสมทบทุกๆ 12 เดือน 

นอกจากนี้ยังมีกรณีที่ผู้รับบำนาญชราภาพเสียชีวิตลงระหว่างรับบำนาญชราภาพยังไม่ถึง 60 เดือน ทายาทสามารถติดต่อเพื่อรับบำเหน็จชราภาพของผู้ประกันตนได้ โดยสามารถดูข้อเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ www.sso.go.th หรือสอบถามที่สายด่วนสปส. 1506 ตลอด 24 ชั่วโมง