นายพรชัย   จิรกุลไพศาล ผู้อำนวยการสำนักนโยบายและยุทธศาสตร์ สำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (สกนช.) เปิดเผยว่า สกนช.ได้เตรียมแผนส่งเสริมการใช้แก๊สโซฮอล์ อี 20 หรือเบนซินผสมเอทานอล 20% รองรับแผนเพิ่มปริมาณการใช้เอทานอลและสนับสนุนแก๊สโซฮอล์ อี 20 เป็นน้ำมันเบนซินพื้นฐาน โดยมีเป้าหมายทำส่วนต่างราคาแก๊สโซฮอล์ อี 20 ต่ำกว่าแก๊สโซฮอล์ 95 ประมาณ 3 บาทต่อลิตร โดยใช้กลไกกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงบริหารจัดการ ควบคู่ความร่วมมือผู้ค้าน้ำมันในเรื่องการปรับค่าการตลาดสนับสนุน คาดว่า จะเริ่มทยอยดำเนินการได้ในช่วง ธ.ค. 65 หรือ ม.ค.66

“เราคงต้องทยอยดำเนินการไปทีละขั้นให้ส่วนต่างแก๊สโซฮอล์ E20 กับแก๊สโซฮอล์ 95 สูงขึ้นและเป้าหมายสุดท้ายคือต่างกัน 3 บาทต่อลิตรเพื่อจูงใจการใช้ E20 ช่วงแรกๆคงต้องอาศัยผู้ค้าลดราคาให้ต่างกันเพราะเงินกองทุนฯอาจมีไม่เพียงพอ ซึ่ง สกนช.จะพยายามประชาสัมพันธ์แจ้งให้กับประชาชนได้รับทราบก่อนเพื่อทำความเข้าใจเพราะวันนี้รถยนต์รุ่นใหม่ทั้งหมดล้วนใช้ E20 ได้หมดแล้ว “นายพรชัย กล่าว

อย่างไรก็ตามแนวทางการส่งเสริมน้ำมันเชื้อเพลิงชีวภาพ (เอทานอล-ไบโอดีเซล) จะสอดรับกับแผนบริหารจัดการน้ำมันเชื้อเพลิง หรือออย แพลน ที่กรมธุรกิจพลังงาน (ธพ.) อยู่ระหว่างจัดทำซึ่งจะมีการวางเป้าหมายประเภทน้ำมันต่างๆ ไว้ชัดเจน โดยในส่วนของแก๊สโซฮอล์ 91 และแก๊สโซฮอล์ อี 85 มีเป้าหมายที่จะยกเลิกการใช้ในที่สุด แต่ยังไม่สามารถตอบได้เมื่อไร เพราะต้องขึ้นอยู่กับสถานการณ์เป็นหลัก และทางเลือกที่ดำเนินการอยู่ระหว่างนี้คือการใช้กลไกของราคาขายปลีกที่ไม่ต่างกันมากระหว่างแก๊สโซฮอล์ 91 และแก๊สโซฮอล์ 95 เพื่อหนุนให้มาใช้แก๊สโซฮอล์ 95 แทน ส่วน อี 85 ลดการอุดหนุนจากกองทุนน้ำมันฯลง

สำหรับกลุ่มดีเซลที่ผสมไบโอดีเซล หรือบี 100 เบื้องต้นคาดว่า จะกำหนดให้น้ำมันดีเซลบี 7 เป็นน้ำมันดีเซลพื้นฐานที่จะเหมาะสมกว่าดีเซล บี 10 ในช่วงนี้ที่ระดับราคาน้ำมันมีความผันผวน ซึ่งปัจจุบันจากระดับราคาบี 100 ที่แพงทำให้รัฐกำหนดลดสัดส่วนกรผสมลงเหลือเกรดเดียวเป็นดีเซล บี 5