กรณีการเสียชีวิตของ ดร.สุรินทร์ พิศสุวรรณ อดีตเลขาธิการอาเซียน ช็อกจนหัวใจล้มเหลวเฉียบพลัน ซึ่งนางฮูวัยดีย๊ะ พิศสุวรรณ ผู้เป็นน้องสาว ออกมาเปิดเผยว่า ก่อนพี่ชายจะเสียชีวิตบ่นว่าเจ็บหน้าอก และฟุบลงไป ภรรยาจึงเรียกรถพยาบาลนำส่งรพ.รามคำแหง และเสียชีวิตในเวลาต่อมา และมีพิธีทางศาสนาวันที่ 1 ธ.ค. ณ มัสยิดท่าอิฐ ต.ท่าอิฐ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี
ล่าสุดวันที่ 1 ธ.ค. นพ.สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวให้ความรู้ว่า ในประเทศไทยโรคกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดเฉียบพลัน พบว่าประมาณ 45% ของการเสียชีวิตอย่างเฉียบพลัน เกิดจากโรคหลอดเลือดหัวใจ ซึ่งเป็นผลมาจากหัวใจเต้นผิดจังหวะชนิดอันตรายรุนแรงจากการขาดเลือดไปเลี้ยงกล้ามเนื้อหัวใจ โดยโรคกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดเฉียบพลัน เกิดขึ้นได้ทั้งขณะทำงาน เล่นกีฬา หรือขณะพักผ่อน เนื่องจากมีภาวะหลอดเลือดแดงแข็ง และมีรอยปริของผนังหลอดเลือด ทำให้มีลิ่มเลือดและไขมัน มาเกาะที่ผนังและก่อตัวเป็นตะกรัน เกิดการอุดตันของหลอดเลือด อาจทำให้เสียชีวิตเฉียบพลันได้
“อาการและสัญญาณเตือนของโรค ผู้ป่วยจะแน่นหน้าอกรุนแรง มีเหงื่อออก ปวดร้าวไปกรามสะบักหลังแขนซ้าย หอบ ใจสั่น จุกบริเวณคอหอย บางรายอาจมีอาการจุกบริเวณใต้ลิ้นปี่ คล้ายกับโรคกระเพาะหรือกรดไหลย้อน เมื่อเกิดภาวะเหล่านี้ ผู้ป่วยต้องรีบเดินมาพบแพทย์ให้เร็วที่สุด เพื่อหาทางรักษาที่ถูกต้อง ซึ่งจากข้อมูลของประเทศไทยพบว่าผู้ป่วยส่วนใหญ่มารักษาล่าช้า จึงทำให้เสียชีวิตหรือมีภาวะหัวใจล้มเหลวตามมา” นพ.สมศักดิ์ ระบุ
ขณะที่ พญ.วิพรรณ สังคหะพงศ์ ผอ.สถาบันโรคทรวงอก กรมการแพทย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า การวินิจฉัยโรคกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดเฉียบพลัน แพทย์จะซักประวัติ อาการและตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ หากคลื่นไฟฟ้าหัวใจผิดปกติ แพทย์จะรีบรักษาด้วยวิธีที่ถูกต้องอย่างรวดเร็วที่สุด ด้วยการให้ยาละลายลิ่มเลือด หรือขยายหลอดเลือดหัวใจด้วยบอลลูนใส่ขดลวดค้ำยัน ส่วนวิธีการป้องกันความเสี่ยงของการเกิดโรคกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดเฉียบพลัน ผู้ป่วยต้องรู้จักดูแลตนเองไม่ให้เกิดภาวะอ้วนลงพุง ควบคุมน้ำตาลในเลือด ควบคุมความดันโลหิตและไขมันในเลือด งดสูบบุหรี่ พักผ่อนให้เพียงพอ ออกกำลังกายอย่างน้อยวันละ 30 นาที สัปดาห์ละ 3-5 วัน และรับประทานอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย เช่น ผัก และผลไม้
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง…
ย้อนฟัง’สุรินทร์’สอนเกมรบ กระตุกต่อมคิดปฏิรูปประเทศ
รับศพไว้อาลัย’สุรินทร์’ บ้าน’พิศสุวรรณ’นักการเมืองแน่น
