สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา เมื่อวันที่ 22 ก.ย. ว่า องค์ชุมนุมชำระวิสามัญแห่งกัมพูชา (อีซีซีซี) หรือศาลคดีเขมรแดง ที่จัดตั้งขึ้นตามข้อตกลงระหว่างกัมพูชาระหว่างสหประชาชาติ (ยูเอ็น) มีคำพิพากษาชี้ขาดเมื่อวันพฤหัสบดี ยืนตามคำตัดสิน เมื่อปี 2561 ว่านายเขียว สัมพัน วัย 91 ปี อดีตประธานสภาผู้แทนประชาชนกัมพูชา มีความผิดจริงและต้องรับโทษจำคุกตลอดชีวิต ในข้อหาฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ประชาชน ในยุครัฐบาลเขมรแดงเรืองอำนาจ ภายใต้การนำของนายพล พต “สหายหมายเลขหนึ่ง” ซึ่งเสียชีวิต เมื่อปี 2541 ขณะมีอายุ 72 ปี


คดีดังกล่าวเป็นคดีล่าสุดที่นายเขียว สัมพัน ต้องรับโทษจำคุก ต่อจากคำพิพากษาของอีซีซีซีเมื่อปี 2557 ที่ตัดสินให้จำเลยต้องรับโทษจำคุกตลอดชีวิต ฐานก่ออาชญากรรมต่อมนุษยชาติ ด้วยการปลุกระดมให้เกิดการก่อเหตุรุนแรงในช่วงสงครามกลางเมืองกัมพูชา ระหว่างปี 2510 ถึง 2518 ซึ่งฝ่ายเขมรแดงชนะ และเป็นจุดเริ่มต้นของการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ในกัมพูชา

ทั้งนี้ ตลอดระยะเวลาที่รัฐบาลเขมรแดงปกครองประเทศระหว่างปี 2518 ถึง 2522 มีประชาชนเสียชีวิตร่วม 2 ล้านคน จากการถูกทรมานทั้งทางร่างกายและจิตใจ ไม่ว่าจะเป็นการใช้แรงงานทาส การใช้ความรุนแรงทางเพศ และการฆ่านอกกฎหมายหรือการฆ่าตัดตอน


ปัจจุบัน นายเขียว สัมพัน ถือเป็นอดีตสมาชิกรัฐบาลเขมรแดงเพียงคนเดียว ซึ่งยังมีชีวิตอยู่ โดยจำเลยร่วม คือนายนวน เจีย เสียชีวิตที่โรงพยาบาลมิตรภาพเขมร-โซเวียต ในกรุงพนมเปญ เมื่อเดือน ส.ค. 2562 รวมอายุได้ 93 ปี

อย่างไรก็ตาม การดำเนินงานของ อีซีซีซี ซึ่งก่อตั้งเมื่อปี 2540 และใช้งบประมาณดำเนินการไปประมาณ 337 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 12,607 ล้านบาท) แต่กลับใช้เวลานานถึง 15 ปี ในการพิพากษากับจำเลยเพียงไม่กี่คน ได้รับเสียงวิจารณ์ไม่น้อยจากหลายฝ่ายทั้งในและนอกกัมพูชาเช่นกันว่า “เปล่าประโยชน์”.

เครดิตภาพ : REUTERS