วันนี้ (23 ก.ย.) เมื่อเวลา 09.30 น. ที่สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) น.ส.สารี อ๋องสมหวัง เลขาธิการสภาองค์กรของผู้บริโภค (สอบ.) ได้เข้ายื่นหนังสือต่อ นพ.สรณ บุญใบชัยพฤกษ์ ประธาน กสทช. โดยมี พ.ต.อ.ประเวศน์ มูลประมุข เลขานุการ ประธาน กสทช. เป็นผู้แทนรับมอบ เพื่อร้องเรียนการทำหน้าที่ของนายไตรรัตน์ วิริยะศิริกุล รักษาการเลขาธิการ กสทช. ที่มีความชี้นำในทางที่ให้เกิดการควบรวมกรณีดีลทรู-ดีแทค และไม่มีความเป็นกลาง ในฐานะเลขาธิการ กสทข. ซึ่งเป็นเลขานุการของที่ประชุม กสทช. จึงขอให้มีการสอบสวนการทำงานต่อกรณีดังกล่าว

พ.ต.อ.ประเวศน์ มูลประมุข เลขานุการประธาน กสทช. กล่าวว่า จะนำหนังสือสภาองค์กร ของผู้บริโภคยื่นนำเสนอที่ประชุมบอร์ดกสทช.ตามขั้นตอน ส่วนความคืบหน้ากรณีการควบรวมทรู-ดีแทค นั้น หลังจากได้รวบรวมข้อมูลและข้อสรุปการตีความตามกฤษฎีกาที่ครบถ้วนแล้ว ได้มีการนำเข้าบรรจุเป็นวาระในการประชุมบอร์ด กสทช. ในวันที่ 12 ต.ค.นี้ เพื่อพิจารณาลงมติการควบรวมธุรกิจของสองบริษัท ซึ่งหากในที่ประชุมมีมติเสร็จสิ้น จะมีการประกาศให้ทราบทั่วกันหลังการประชุมในวันดังกล่าว

น.ส.สารี อ๋องสมหวัง กล่าวว่า การยื่นหนังสือครั้งนี้ทาง กสทช.ต้องแจ้งผลการดำเนินการในเรื่องนี้กลับมายังสภาองค์กรของผู้บริโภค ด้วยว่ามีการสอบสวนหรือดำเนินการเรื่องนี้อย่างไร ส่วนกรณีหาก กสทช.มีมติให้ควบรวมระหว่างสองบริษัท จนเกิดความเสียหายต่อผู้บริโภค ทางสภาองค์กรของผู้บริโภค ก็จะใช้สิทธิในการฟ้องร้อง กสทช.ต่อศาลปกครองต่อไป ส่วนกรณีเงื่อนไขหลังควบรวม 14 ข้อ คิดว่าเป็นมาตราการที่อ่อนมาก จึงขอให้มีการเปิดประชาพิจารณ์เพื่อให้สาธารณะมีสิทธินำเสนอแสดงความคิดเห็นในเรื่องนี้ด้วย

ด้าน นายไตรรัตน์ วิริยะศิริกุล รักษาการแทน เลขาธิการ กสทช. กล่าวถึงกรณี สภาองค์กรของผู้บริโภคยื่นหนังสือถึงประธาน กสทช. ให้สอบสวนการทำหน้าที่ ว่าตนเองได้รับหนังสือตอบกลับจากกฤษฎีกาในช่วงค่ำของวันที่ 20 ก.ย. 65 ซึ่งเป็นช่วงเวลาหลังจากที่สื่อออกข่าวการตีความและปรากฏชื่อของตนเองในข่าว ยืนยันว่าตนเองไม่ได้เป็นคนปล่อยเอกสารหรือให้ข่าวต่อสื่อมวลชนแต่อย่างใด 

ซึ่งสำนักงาน กสทช. มีหน้าที่ในการรวบรวมเอกสารให้คณะกรรมการ กสทช. พิจารณาเท่านั้น ซึ่งได้กำหนดไว้ในวาระการประชุมปกติเพื่อตัดสินใจเรื่องควบรวมในวันที่ 12 ต.ค.นี้ และคาดว่าอาจจะมีการแถลงข่าวทันที โดยประธาน กสทช. ซึ่งตนเองไม่มีสิทธิให้ข่าวแต่อย่างใด

“เรื่องที่เกิดขึ้นไม่สามารถห้ามความคิดใครได้คนกำหนดหลักเกณฑ์ต้องเป็นคณะกรรมการ กสทช.เท่านั้น การที่สภาฯยื่นหนังสือให้สอบตนเองต่อประธานก็ไม่เป็นไร เพราะตนเองยืนยันว่าทำตามหน้าที่ ทำตามกฎหมาย และขอยืนยันว่าไมได้ทำเอกสารหลุดและให้ข่าวต่อสื่อมวลชนแต่อย่างใด” นายไตรรัตน์ กล่าว