สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงมอสโก ประเทศรัสเซีย เมื่อวันที่ 25 ก.ย. ว่า กระทรวงกลาโหมของรัสเซียออกแถลงการณ์ เรื่องการปลด พล.อ.ดมิทรี บุลกาคอฟ ออกจากตำแหน่ง รมช.กลาโหม เนื่องจากมีคำสั่งให้ พล.อ.บุลกาคอฟ วัย 67 ปี “ไปทำหน้าที่ใหม่” ขณะที่บุคคลซึ่งได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งแทน คือ พล.อ.มิคาอิล มิซินต์เซฟ ซึ่งนำกองทัพรัสเซียยึดเมืองมาริอูโปล ทางตอนใต้ของยูเครน เมื่อเดือน เม.ย. ที่ผ่านมา
Russia's Vladimir Putin fires deputy defence chief amid supply failures https://t.co/UliSnXdPIC
— BBC News (World) (@BBCWorld) September 24, 2022
ทั้งนี้ หนึ่งในภารกิจหลักของ พล.อ.บุลกาคอฟ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่ง รมช.กลาโหม คือการดูแลด้านโลจิสติกส์ทางทหารในภาพรวม ตั้งแต่ปี 2551 และเน้นไปที่ภารกิจทางทหารในซีเรีย ตั้งแต่ปี 2558
ในอีกด้านหนึ่ง การประท้วงต่อต้านการระดมกำลังทหารกองหนุน 300,000 นาย ตามคำสั่งของประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ยังคงเกิดขึ้นตามเมืองใหญ่อย่างน้อย 32 แห่งในรัสเซีย โดยมีรายงานผู้ถูกจับกุมอีกมากกว่า 730 คน เฉพาะเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา
Riot police rounding up protesters in St Petersburg today are wearing the pro-war Z symbol on their helmets. Their job is now quite literally to ensure this war keeps going. pic.twitter.com/eaPYk5BLeK
— Matthew Luxmoore (@mjluxmoore) September 24, 2022
ขณะที่ กระทรวงกลาโหมของรัสเซียประกาศว่า อาชีพที่จะได้รับการยกเว้นจากการเกณฑ์ทหารกองหนุนครั้งนี้ รวมถึงบุคลากรในสายงานสำคัญ เช่น สื่อสารมวลชน นักการธนาคาร ครู อาจารย์ และพนักงานด้าน “อุตสาหกรรมที่สำคัญ” โดยเฉพาะอุตสาหกรรมที่ต้องใช้เทคโนโลยีระดับสูง เพื่อให้เศรษฐกิจของประเทศขับเคลื่อนไปได้อย่างราบรื่น
ส่วน นายดมิทรี เปสคอฟ โฆษกทำเนียบเครมลิน ปฏิเสธรายงานของโนวายา กาเซตตา ซึ่งเป็นหนึ่งในสื่ออิสระ และรายงานโดยอ้างแหล่งข่าวว่า แท้จริงแล้วกองทัพรัสเซียต้องการระดมทหารกองหนุนเพื่อการนี้ ซึ่งจะเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่สอง มากถึง 1 ล้านนาย เป็นการสร้างความแตกตื่นให้แก่ประชาชนโดยใช่เหตุ.
เครดิตภาพ : REUTERS