สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงเตหะราน ประเทศอิหร่าน เมื่อวันที่ 26 ก.ย. ว่า นายฮอสเซ็น อมิราบโดลลาเฮียน รมว.การต่างประเทศอิหร่าน กล่าวเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ประณามสหรัฐ “สนับสนุนผู้ก่อการจลาจล” เพื่อบ่อนทำลายเสถียรภาพของอิหร่าน


ขณะเดียวกัน รัฐบาลเตหะรานเชิญเอกอัครราชทูตนอร์เวย์และสหราชอาณาจักรเข้าพบ “เพื่อแสดงความวิตกกังวล”ต่อ “การแสดงท่าทีก้าวร้าว” ของทั้งสองประเทศ ที่มีต่อสถานการณ์ประท้วง และการแสดงจุดยืนสนับสนุนกลุ่มผู้ก่อการจลาจล


การประท้วงครั้งใหม่ในอิหร่านยืดเยื้อตั้งแต่กลางเดือนนี้ โดยมีชนวนเหตุมาจากเสียชีวิตของ น.ส.มาห์ซา อมินี หญิงสาวชาวอิหร่าน วัย 22 ปี ซึ่งถูกตำรวจศีลธรรมจับกุม ในกรุงเตหะราน เมื่อวันที่ 13 ก.ย. ที่ผ่านมา “ฐานแต่งกายไม่สุภาพ” เนื่องจากไม่สวมฮิญาบคลุมศีรษะให้เรียบร้อย


ทั้งนี้ อมินีเสียชีวิตที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในกรุงเตหะราน ในอีก 3 วันต่อมา ด้านสำนักงานตำรวจศีลธรรมยืนยันว่า ไม่ได้ทำร้ายหญิงสาวด้วยการจับศีรษะของเธอกระแทกเข้ากับรถสายตรวจ แล้วใช้กระบอกทุบตีไปที่ศีรษะของเธอ ตามที่สื่อหลายแห่งรายงาน โดยทางการอิหร่านยืนยันข้อมูลของตัวเองว่า อมินีเสียชีวิตจากภาวะหัวใจล้มเหลวเฉียบพลัน


แม้ประธานาธิบดีอีบราฮิม ไรซี ผู้นำอิหร่าน พยายามไกล่เกลี่ยสถานการณ์ ด้วยการตั้งคณะทำงานเฉพาะกิจสอบสวนเรื่องนี้ และยืนยันการให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย อย่างไรก็ตาม การปราบปรามและควบคุมสถานการณ์ของเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงยังคงเป็นไปด้วยความเด็ดขาด สื่อของรัฐบาลเตหะรานรายงานผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 41 ราย แต่หน่วยงานสิทธิมนุษยชนหลายแห่งทั้งในและต่างประเทศกล่าวว่า สถิติจริงอาจมากกว่านั้น “ไม่ต่ำกว่าสองเท่า”.

เครดิตภาพ : REUTERS