เมื่อวันที่ 27 ก.ย. ในงาน Sustainability Expo 2022 ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ทาง บริษัท ประชารัฐรักสามัคคี วิสาหกิจเพื่อสังคม (ประเทศไทย) จำกัด ร่วมกับ กรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย เครือข่ายบริษัท ประชารัฐรักสามัคคี วิสาหกิจเพื่อสังคม ทั่วประเทศ ภาคีเครือข่ายสถาบันการศึกษา และภาคเอกชน เปิดโครงการ “ผ้าขาวม้าท้องถิ่น หัตถศิลป์ไทย ปีที่ 6” ภายใต้งาน “ผ้าขาวม้าทอใจ 2565” ขึ้นในแนวคิด “ผ้าขาวม้าพาสุข” ที่สื่อถึงความสุข สุขใจทั้งผู้ผลิต ผู้ใช้ และเกิดความสุขแก่สังคมที่สามารถนำผ้าขาวม้าทอมือไปใช้ประโยชน์ได้หลากหลาย

โดยมี นายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม รองปลัดกระทรวงมหาดไทย ดร.มีชัย วีระไวทยะ ฐาปน สิริวัฒนภักดี กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) และประธานคณะกรรมการโครงการผ้าขาวม้าท้องถิ่นหัตถศิลป์ไทย และ ต้องใจ ธนะชานันท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ประชารัฐรักสามัคคี วิสาหกิจเพื่อสังคม (ประเทศไทย) ร่วมเปิดงาน พร้อมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือโครงการ Creative Young Designers เพื่อส่งเสริมให้เกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่างชุมชนผู้ผลิตผ้าขาวม้าทอมือ ด้วยการรวมพลังคนรุ่นใหม่ มาร่วมสร้างสรรค์อัตลักษณ์ผ้าขาวม้าทอมือ โดยมีการบูรณาการความรู้ระหว่างคณะด้านการออกแบบและคณะด้านการบริหารธุรกิจในการช่วยพัฒนาผ้าขาวม้า ซึ่งได้ต่อยอดขยายพื้นที่การทำงานเป็น 17 ชุมชนทั่วประเทศ ร่วมกับ 16 มหาวิทยาลัยในโครงการ Eisa (Education Institute Support Activity) และ 3 สโมสรฟุตบอล เพื่อส่งเสริมให้เกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่างชุมชนผู้ผลิตผ้าขาวม้าทอมือกับกลุ่มนักศึกษา

ภายในงานมีการแสดงภายใต้ชื่อ “The future is bright” ซึ่งเป็นผลงานการออกแบบโครงการ CYD 64 โดยภาควิชาการออกแบบแฟชั่น คณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ และวงไลฟ์ แบรนด์ โดยคณะดุริยางคศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร ซึ่งการแสดงดังกล่าว มีการนำเสนอแฟชั่นโชว์ที่นำผืนผ้าขาวม้าทำเป็นชุดเสื้อผ้าสตรี สุภาพบุรุษ ร่วมสมัย กระเป๋าในแบบต่างๆ และคงความเป็นอัตลักษณ์ของผ้าขาวม้าทอมือ ซึ่งเป็นการสร้างสรรค์ผลงานจากนักศึกษามหาวิทยาลัยต่างๆ ที่นำผืนผ้าจากวิสาหกิจชุมชน กลุ่มทอผ้าจังหวัดต่างๆ มาออกแบบและตัดเย็บได้อย่างสวย ส่วนไฮไลต์ของงาน คือการร่วมแสดงแบบของเหล่านักฟุตบอล ทีมสโมสรฟุตบอลพีที ประจวบ, อยุธยา ยูไนเต็ด และสโมสรฟุตบอลนครปฐม ยูไนเต็ด ที่อยู่ในชุดกีฬาที่นำผืนผ้าขาวม้ามาตัดเย็บ

โดยนักฟุตบอลที่มาจากสโมสรฟุตบอลอยุธยา ยูไนเต็ด สวมใส่เสื้อผ้าที่นำผ้าทอจากวิสาหกิจชุมชนกลุ่มทอผ้าบ้านหนองเครือบุญ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ออกแบบสร้างสรรค์โดยนิสิตจากมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ นักฟุตบอลจากสโมสรฟุตบอลนครปฐม ยูไนเต็ด สวมใส่ชุดกีฬา จากความร่วมมือของวิมพ์ ดีไซน์ จังหวัดนนทบุรี และการออกแบบโดยนักศึกษามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ ขณะที่นักฟุตบอลจากสโมสรฟุตบอลพีที ประจวบ สวมใส่เสื้อผ้าที่นำผืนผ้าจากศูนย์หัตถกรรมทอผ้าบ้านเขาเต่า จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ออกแบบสร้างสรรค์โดยนักศึกษามหาวิทยาลัยรังสิต