จากกรณีพบศพผู้เสียชีวิต เป็นผู้หญิงลอยอืดยัดกระเป๋าเดินทาง ลอยมาตามลำน้ำโขง ติดแพจอดเรือ บริเวณริมตลิ่งแม่น้ำโขง เขตบ้านโพธิ์ทอง หมู่ 10 ต.ธาตุพนม ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ความคืบหน้าเมื่อวันที่ 28 ก.ย. พ.ต.อ.ถวิล คำเกษ ผกก.สภ.ธาตุพนม เปิดเผยว่า สำหรับคดีตอนนี้อยู่ระหว่างการเก็บรวบรวมหลักฐาน รูปพรรณสัณฐานของผู้เสียชีวิตเบื้องต้น พร้อมประสานไปยังพื้นที่ต่างๆ ให้ตรวจสอบหาเบาะแส หรือข้อมูลแจ้งคนหาย ส่วนหลักฐานสำคัญที่จะเชื่อมไปหาเบาะแสที่มา คือ เสื้อผ้าเครื่องแต่งกายของผู้ตาย พบว่า ส่วนใหญ่เป็นเสื้อผ้าแบรนด์เนม ที่มีราคาพอสมควร คาดว่าไม่ใช่ชาวบ้านทั่วไป แต่อาจเป็นคนที่มีฐานะ หรือรักการแต่งกายที่สวยงาม ตรวจสอบเบื้องต้น พบสวมเสื้อยืดแขนกุด ยี่ห้อ JASPAL สีเทา ไซซ์ S สวมกางเกงยีนยี่ห้อ Lee cooper สีดำ ไซซ์ S ชุดชั้นในยี่ห้อ sabina สีเทา ภายในกระเป๋ายังพบเสื้อแจ๊กเกตสีขาว ยี่ห้อ Fila ไซซ์ S แว่นสายตายี่ห้อ Gucci และหมอนพิงหลัง ที่จะเป็นหลักฐานสำคัญในการสืบสวนหาเบาะแส ที่มาของการฆาตกรรม อยู่ระหว่างเจ้าหน้าที่ระดมทีมสืบสวน ลงพื้นที่แกะรอย ประสานโรงพักทุกแห่ง เร่งหาเบาะแส เชื่อว่าผู้ตายน่าจะเป็นคนต่างพื้นที่ หรืออาจจะเป็นคนฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน ยังไม่สรุป
ฆ่าโหดสาวปริศนายัดกระเป๋าเดินทาง ‘ถ่วงหิน’ ลอยอืดริมน้ำโขง…
ส่วน นายประวิณ วราธนกิจ อายุ 39 ปี นายกสมาคมกู้ภัยสว่างนาวาธาตุพนม เปิดเผยว่า เบื้องต้นจากการตรวจสอบร่วมกับเจ้าหน้าที่ทราบว่า กระเป๋ายัดศพดังกล่าวลอยมาตามลำน้ำโขง ในพื้นที่ อ.ธาตุพนม จ.นครพนม เป็นวันที่ 2 จนกระทั่งลอยมาติดตลิ่ง ภายในกระเป๋าพบว่าศพถูกยัดใส่กระเป๋าแบบนั่งก้มหน้าคุดคู้ สวมด้วยถุงพลาสติดสีดำ เชื่อว่ามีการฆาตกรรมและเคลื่อนย้ายศพก่อนมาทิ้งลงน้ำโขง และจากประสบการณ์ทำงานชันสูตรศพ เชื่อว่าเป็นการฆาตกรรมและยัดกระเป๋าเดินทางหลังเสียชีวิต เพราะไม่มีเชือกมัดมือมัดเท้า มีเพียงหินภูเขายัดถ่วงน้ำหนักให้จมน้ำ คาดว่าก่อนจะลอยอืด จะต้องเสียชีวิตถูกโยนถ่วงน้ำประมาณ 4-5 วัน
จากประสบการณ์ค้นหาศพคนจมน้ำเสียชีวิต คาดว่ามีโอกาสไหลมากับน้ำระยะทางไกลถึง 100 เมตร อาจเป็นคนต่างถิ่น หรืออาจไหลมาจากประเทศเพื่อนบ้าน นอกจากนี้ดูจากเสื้อผ้าการแต่งกาย มั่นใจว่าจะเป็นคนที่ชอบความสวยงาม และมีรูปร่างเล็กผิวขาว และมีฐานะพอที่จะซื้อเสื้อผ้าแบรนด์เนมสวมใส่ ส่วนร่องรอยบาดแผลการถูกทำร้าย มีเพียงใบหน้าที่เชื่อว่าจะถูกทุบทำร้ายด้วยของแข็งก่อนเสียชีวิต เพราะสภาพศพใบหน้าเปื่อยยุ่ย ไม่สามารถตรวจสอบรูปพรรณสัณฐานได้
