สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงวอชิงตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 5 ต.ค. ว่า แองเจลินา โจลี ยื่นคำร้องต่อศาลนครลอสแอนเจลิส เมื่อวันอังคาร กล่าวหา แบรด พิตต์ อดีตสามี “ล่วงละเมิดทั้งทางร่างกายและจิตใจ ต่อตัวเธอและบุตร” หนึ่งในนั้นคือเหตุการณ์บนเครื่องบินเจ็ตส่วนตัว เมื่อเดือน ก.ย. 2559 ซึ่งพิตต์จับศีรษะของเธอแล้วเขย่า ก่อนโขกศีรษะของเธอเข้ากับประตูห้องน้ำบนเครื่องบิน


ขณะเดียวกัน พิตต์ยังตบหน้าบุตร และเค้นคอบุตรอีกคนหนึ่งด้วยในเหตุการณ์วันนั้น นอกจากนี้ โจลีกล่าวย้อนไปถึงการที่อดีตสามีเคยฟ้องร้องเธอ ในคดีขายหุ้นไร่องุ่นที่ฝรั่งเศสโดยไม่บอกกล่าว ซึ่งพิตต์กล่าวหาอดีตภรรยาว่า ละเมิดข้อตกลงและมีเจตนาสร้างความเสื่อมเสียให้แก่ตัวเขา ว่าแม้ศาลพิพากษาเมื่อเดือน ก.ค. ที่ผ่านมา ให้เธอเป็นฝ่ายชนะ แต่เบื้องหลังมีการบรรลุข้อตกลง ซึ่งเงื่อนไขรวมถึงการที่ โจลีต้องไม่ปริปากเรื่องการล่วงละเมิดของพิตต์ต่อสาธารณชน


ทั้งนี้ โจลี กล่าวว่า การที่พิตต์กล่าวหาเธอ เมื่อเดือน ก.ย. ปีที่แล้ว ว่าละเมิดข้อตกลงขายหุ้นในไร่บ่มไวน์ “ชาโต มิราวัล” ที่ฝรั่งเศส ให้แก่บริษัทผลิตไวน์แห่งหนึ่ง เนื่องจากมีการระบุชัดเจนในเงื่อนไขว่า การขายหุ้นต้องเป็นไปตามความยินยอมพร้อมใจของทั้งพิตต์และโจลีนั้น “เงื่อนไขเช่นนี้ไม่มีอยู่จริง” และทิ้งท้ายว่า สำนักงานสอบสวนกลาง (เอฟบีไอ) กำลังสอบสวนเหตุการณ์บนเครื่องบิน ที่เธอกล่าวถึงในสำนวนด้วย


อนึ่ง โจลี วัย 47 ปี และพิตต์ วัย 58 ปี แต่งงานกันเมื่อปี 2557 ก่อนหย่าร้างกันเมื่อปี 2559 ทั้งคู่มีบุตร 6 คน แบ่งเป็นบุตรอุปถัมภ์ 3 คน และบุตร 3 คน ซึ่งเกิดจากโจลีกับพิตต์.

เครดิตภาพ : GETTY IMAGES