สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงวอชิงตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 7 ต.ค. ว่า กระทรวงการคลังของสหรัฐออกแถลงการณ์ เมื่อวันพฤหัสบดี ขึ้นบัญชีดำ นายออง โม มยินต์ บุตรชายของทหารนายหนึ่งในกองทัพเมียนมา และผู้บริหารระดับสูงอีกสองคนของบริษัท “ไดแนสตี อินเตอร์เนชั่นแนล” ที่ก่อตั้งโดยนางออง โม มยินต์ ซึ่งข้อมูลของรัฐบาลวอชิงตันระบุว่า บริษัทแห่งนี้คอยอำนวยความสะดวกให้กับการจัดหาอาวุธซึ่งผลิตในรัสเซีย โดยเป็นการส่งออกผ่านเบลารุส
ขณะที่นายแอนโทนี บลิงเคน รมว.การต่างประเทศสหรัฐ กล่าวเสริมว่า มาตรการคว่ำบาตรดังกล่าวยิ่งเป็นการบ่งชี้ ความเชื่อมโยงและสายสัมพันธ์อันยาวนาน ระหว่างกองทัพเมียนมา กับรัสเซียและเบลารุส
US sanctions businessman linked to Myanmar junta for buying Russian-made arms https://t.co/IBLNRwiQB1
— SCMP Asia (@SCMPAsia) October 7, 2022
อย่างไรก็ตาม บรรดาผู้สันทัดกรณีวิเคราะห์ว่า มาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐและตะวันตกที่มีต่อรัฐบาลทหารเมียนมา เพื่อหวังเพิ่มแรงกดดัน นับตั้งแต่เกิดการรัฐประหาร เมื่อวันที่ 1 ก.พ. 2564 นั้น “ไม่มีทางได้ผลอย่างแท้จริง” เนื่องจากยังไม่เคยมีการใช้มาตรการโดยตรงต่ออุตสาหกรรมก๊าซธรรมชาติของเมียนมา ซึ่งเป็นหนึ่งในแหล่งรายได้หลักของรัฐบาลทหารทุกยุคทุกสมัย
อนึ่ง รายงานโดย โกลบอล นิว ไลต์ ออฟ เมียนมา อ้างเป็นข้อมูลจากกระทรวงพาณิชย์เมียนมา ระบุว่า การขายก๊าซธรรมชาติผ่านท่อ ระหว่างเดือน เม.ย. จนถึงเดือน ก.ค. ที่ผ่านมา มีสถิติอยู่ที่ 77.89 ล้านกิโลลิตร สร้างรายได้เข้าประเทศ 800 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 29,952 ล้านบาท) เพิ่มขึ้น 60.7 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 2,272.61 ล้านบาท) เมื่อเทียบกับสถิติจากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว.
เครดิตภาพ : GETTY IMAGES