สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากนครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 7 ต.ค. ว่า จากกรณีเหตุกราดยิง ภายในศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก และการใช้ความรุนแรงต่อประชาชนในพื้นที่ จังหวัดหนองบัวลำภู ทางตะวันออกเฉียงเหนือของไทย เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บเป็นจำนวนมาก และโศกนาฏกรรมครั้งนี้ สร้างความสะเทือนขวัญและสลดใจไปทั้งโลก เนื่องจากผู้เสียชีวิตและผู้ได้รับบาดเจ็บส่วนใหญ่เป็นเด็ก


รายงานของ “เดอะ นิวยอร์ก ไทม์ส” ระบุว่า แม้แรงจูงใจของผู้ก่อเหตุ ซึ่งเสียชีวิตไปแล้ว ยังคงต้องเป็นที่สอบสวนเชิงลึกต่อไปโดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง แต่ในต่างประเทศเริ่มมีการให้ความสนใจมากขึ้น เกี่ยวกับกฎหมายอาวุธปืน และกฎหมายการครอบครองอาวุธปืนในไทย ข้อมูลจากเว็บไซต์ gunpolicy.org ของมหาวิทยาลัยซิดนีย์ ในออสเตรเลีย ระบุว่า สถิติการครอบครองอาวุธปืนส่วนบุคคลในไทยอยู่ที่มากกว่า 10.3 ล้านกระบอก เมื่อปี 2560 แต่มีเพียง 6 ล้านกระบอกเท่านั้น ที่มีการขึ้นทะเบียนตามกฎหมาย หมายความว่ามี “ปืนเถื่อน” มากกว่า 4 ล้านกระบอก


แม้อัตราดังกล่าวน้อยกว่าสหรัฐมาก แต่ในเอเชียถือว่า อัตราการครอบครองอาวุธปืนดังกล่าวสูงเป็นอันดับต้นของภูมิภาค และทำให้ไทยกลายเป็นศูนย์กลางของตลาดมืดการค้าอาวุธ นอกเหนือจากกัมพูชาและเวียดนาม ทั้งที่มีกฎหมายควบคุมเข้มงวด โดยผู้ที่ลักลอบครอบครองอาวุธปืน อาจต้องรับโทษจำคุกนานสูงสุด 10 ปี และปรับเป็นเงิน 20,000 บาท ขณะที่บุคคลซึ่งต้องการรับใบอนุญาตครอบครองอาวุธปืน ต้องผ่านการทดสอบอย่างเข้มงวดหลายขั้นตอน.

เครดิตภาพ : REUTERS