จากกรณีประเด็นเดือดจากโลกออนไลน์หลังจากมีคุณแม่วัยใสรายหนึ่ง ได้นำลูกสาวและลูกชายเที่ยวพับกลางคืนย่านสุราษฎร์ธานี จนทำให้เกิดกระแสถูกวิพากษ์วิจารณ์สนั่น ซึ่งหลายคนถกถามถึงความเหมาะสม หนำซ้ำจี้ถามหาความถูกต้องเหตุใดเด็กถึงเข้าสถานที่บันเทิงในยามวิกาลได้
ล่าสุดเมื่อวันที่ 9 ตุลาคม 2565 ด้าน สภ.จังหวัดสุราษฎร์ธานี ออกมาชี้แจ้งดราม่านี้ว่า “ตามที่มีข่าวปรากฏสื่อออนไลน์กรณีที่เมื่อวันที่ 7 ต.ค.65 ได้ปรากฏภาพและคลิปผ่านสื่อออนไลน์และสื่อโทรทัศน์กรณีที่แม่พาบุตรผู้ชาย 1 คน และผู้หญิง 1 คน อายุประมาณ 46 ปี เข้าไปในสถานประกอบการที่คล้ายกับสถานบริการ และมีประชาชนให้ความสนใจจำนวนมาก จากการตรวจสอบเบื้องต้นสถานที่ดังกล่าวทราบว่าคือ ร้านอาหารมสันทร์วาไรตี้ บาร์แอนด์เรสเตอรอง ตั้งอยู่ที่ หมู่ 1 ต.บางกุ้ง อ.เมือง จว.สุราษฎร์ธานี
ทาง ภ.จว.สุราษฎร์ธานี โดยพล.ต.ต.ศรัญญญู ชำนาญราช ผบก.สุราษฎร์ธานี ได้สั่งการให้ ผกก.สภ.เมืองสุราษฎร์ธานี เร่งรัตดำเนินการ ตรวจสอบเรื่องนี้โดยด่วน โดยให้รายงานการตรวจสอบเรื่องนี้กายใน 3 วัน เพื่อดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป โดยมีประเด็นสำคัญตังต่อไปนี้
- วันเวลาที่บุคคลที่เป็นข่าวเข้าไปใช้บริการ
- ซักถามปากคำผู้เกี่ยวช้อง ทั้ง แม่ของเด็ก, เจ้าของร้าน และพนักงานของร้าน ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
- ตรวจสอบข้อมูลที่ปรากฏผ่านสื่อออนไลน์ต่างๆ เพื่อทราบข้อเห็จจริงของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
- ตรวจสอบกล้องวงจรปิดภายในร้าน
- หากพบว่ามีการกระทำผิดกฎหมายในเรื่องใดก็ให้ดำเนินการตามอำนาจหน้าที่โดยไม่มีข้อยกเว้น
ทั้งนี้ ในการตรวจสอบเรื่องนี้ต้องให้มีรายละเอียดปรากฏชัดเจนว่ามีพฤติการณ์ในการเข้าใช้บริการในร้านทากพบว่าเป็นความผิดตามกฎหมายใดจะได้เร่งดำเนินคดีกับผู้เกี่ยวข้องต่อไปโดย สภ.เมืองสุราษฎร์ธานี ได้ประชาสัมพันธ์แนวทางการดำเนินการในเรื่องนี้ให้ประขาชนทั่วไปทราบ ผ่านสื่อโซเซียลมีเดียของหน่วยงาน และสื่อมวลชนต่าง ๆ โดยที่ พล.ต.ต.ศรัญญ ชำนาญราช ผบก.ภ.จว.สุราษฎร์ธานี ได้กำชับให้ทุก สภ.ในสังกัด จัดชุดออกตรวจสถานบริการร่วมกับฝ่ายปกครองและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างสม่ำเสมอ เพื่อไม่ให้มีเหตุดังกล่าวเกิดขึ้นมาอีกและ ขอยืนยันว่า ภ.จว.สุราษฎร์ธานี ให้ความสำคัญเกี่ยวกับเรื่องนี้และจะไม่ให้มีการกระทำผิดเกิดขึ้นเป็นอันขาด หากพี่น้องประชาชนหรือสื่อมวลขนทราบข่าวหรือมีเบาะแสการกระทำความผิดก็ข้อให้แจ้ง ผบก.ก.จว.สุราษฎร์ธานีทราบ ทั้งนี้ จะได้เก็บข้อมูลของผู้แจ้งไว้เป็นความลับและจะได้ดำเนินการปราบปรามโดยเด็ดขาดต่อเนื่องตลอดไป”…
ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพ : @ตำรวจภูธรจังหวัดสุราษฎร์ธานี
