สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงมอสโก ประเทศรัสเซีย เมื่อวันที่ 10 ต.ค.ว่า ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน กล่าวถึงเหตุเพลิงไหม้และระเบิดอย่างรุนแรง บนสะพาน “เคิร์ช” ซึ่งเป็นชื่อเดียวกับช่องแคบในบริเวณนั้น ใช้เป็นเส้นทางสัญจรและขนส่งสินค้าหลัก เชื่อมระหว่างคาบสมุทรไครเมียกับแผ่นดินใหญ่ของรัสเซีย เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 3 ราย “เป็นการก่อการร้ายที่มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างความเสียหาย หรือถึงขั้นทำลายโครงสร้างพื้นฐานของพลเรือน” และ “เป็นฝีมือของหน่วยปฏิบัติการพิเศษยูเครน”


ทั้งนี้ ผู้นำรัสเซียไม่ได้ให้รายละเอียดเพิ่มเติม แต่เรียกตัวนายอเล็กซานเดอร์ บาสตรีกิน ผู้อำนวยการคณะกรรมการการสอบสวนแห่งชาติ เข้าพบหารือ เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา และเตรียมประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ ในวันจันทร์ที่ 10 ต.ค. ตามเวลาท้องถิ่น

ยานพาหนะสัญจรบนสะพานเคิร์ช เชื่อมระหว่างคาบสมุทรไครเมียกับแผ่นดินใหญ่ยูเครน


ขณะที่บาสตรีกินกล่าวในเวลาต่อมา ว่า เจ้าหน้าที่ตรวจสอบเส้นทางของรถบรรทุกคันที่ระเบิดบนสะพาน พบว่าเดินทางผ่านบัลแกเรีย จอร์เจีย อาร์เมเนีย ภูมิภาคนอร์ทออสซีเชีย และคราสโนดาร์ของรัสเซีย แล้วจึงข้ามสะพานเส้นนี้ และ “กลุ่มผู้สมคบคิดก่อการ” กับหน่วยข่าวกรองของยูเครน มีชาวรัสเซียและ “เจ้าหน้าที่ต่างชาติ” รวมอยู่ด้วย


นอกจากนี้ ยังเกิดเพลิงไหม้ตู้เชื้อเพลิง 5 ตู้ จากทั้งหมด 59 ตู้ของรถไฟบรรทุกเชื้อเพลิง ที่แล่นอยู่ในบริเวณเกิดเหตุพอดี อนึ่ง เจ้าหน้าที่สามารถควบคุมสถานการณ์ได้ และเปิดใช้งานสะพานตามปกติ ทั้งถนนและทางรถไฟ หลังปิดไปนาน 10 ชั่วโมง และจะมีการทำลายส่วนที่เสียหายบนสะพานต่อไป


ด้านประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครน กล่าวถึงเหตุการณ์บนสะพานเคิร์ชว่า “เมฆหมอกกำลังปกคลุมไครเมีย” ส่วนทำเนียบขาวและกระทรวงกลาโหมของสหรัฐ ยังปฏิเสธให้ความเห็นอย่างเป็นทางการ.

เครดิตภาพ : REUTERS