สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงมอสโก ประเทศรัสเซีย เมื่อวันที่ 10 ต.ค.ว่า ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน กล่าวถึงเหตุเพลิงไหม้และระเบิดอย่างรุนแรง บนสะพาน “เคิร์ช” ซึ่งเป็นชื่อเดียวกับช่องแคบในบริเวณนั้น ใช้เป็นเส้นทางสัญจรและขนส่งสินค้าหลัก เชื่อมระหว่างคาบสมุทรไครเมียกับแผ่นดินใหญ่ของรัสเซีย เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 3 ราย “เป็นการก่อการร้ายที่มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างความเสียหาย หรือถึงขั้นทำลายโครงสร้างพื้นฐานของพลเรือน” และ “เป็นฝีมือของหน่วยปฏิบัติการพิเศษยูเครน”
Putin makes his first comments about the explosion on the bridge to Crimea. He says it's a "terrorist attack aimed at destroying critical Russian civilian infrastructure" and blames "Ukrainian secret services" for it. pic.twitter.com/pqIeVndRis
— max seddon (@maxseddon) October 9, 2022
ทั้งนี้ ผู้นำรัสเซียไม่ได้ให้รายละเอียดเพิ่มเติม แต่เรียกตัวนายอเล็กซานเดอร์ บาสตรีกิน ผู้อำนวยการคณะกรรมการการสอบสวนแห่งชาติ เข้าพบหารือ เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา และเตรียมประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ ในวันจันทร์ที่ 10 ต.ค. ตามเวลาท้องถิ่น

ขณะที่บาสตรีกินกล่าวในเวลาต่อมา ว่า เจ้าหน้าที่ตรวจสอบเส้นทางของรถบรรทุกคันที่ระเบิดบนสะพาน พบว่าเดินทางผ่านบัลแกเรีย จอร์เจีย อาร์เมเนีย ภูมิภาคนอร์ทออสซีเชีย และคราสโนดาร์ของรัสเซีย แล้วจึงข้ามสะพานเส้นนี้ และ “กลุ่มผู้สมคบคิดก่อการ” กับหน่วยข่าวกรองของยูเครน มีชาวรัสเซียและ “เจ้าหน้าที่ต่างชาติ” รวมอยู่ด้วย
An explosion tore across Russia’s bridge across the Kerch strait to Crimea in the early hours of this morning.
— max seddon (@maxseddon) October 8, 2022
The bridge is an important conduit for Russian supply routes in Ukraine and a huge source of Putin's prestige. This is a hugely damaging blow. pic.twitter.com/eWyWPn54Xw
นอกจากนี้ ยังเกิดเพลิงไหม้ตู้เชื้อเพลิง 5 ตู้ จากทั้งหมด 59 ตู้ของรถไฟบรรทุกเชื้อเพลิง ที่แล่นอยู่ในบริเวณเกิดเหตุพอดี อนึ่ง เจ้าหน้าที่สามารถควบคุมสถานการณ์ได้ และเปิดใช้งานสะพานตามปกติ ทั้งถนนและทางรถไฟ หลังปิดไปนาน 10 ชั่วโมง และจะมีการทำลายส่วนที่เสียหายบนสะพานต่อไป
ด้านประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครน กล่าวถึงเหตุการณ์บนสะพานเคิร์ชว่า “เมฆหมอกกำลังปกคลุมไครเมีย” ส่วนทำเนียบขาวและกระทรวงกลาโหมของสหรัฐ ยังปฏิเสธให้ความเห็นอย่างเป็นทางการ.
เครดิตภาพ : REUTERS