สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย เมื่อวันที่ 13 ต.ค. ว่า ประธานาธิบดีโจโค วิโดโด ลงพื้นที่ตรวจสอบความคืบหน้าของโครงการก่อสร้างทางรถไฟความเร็วสูง ความยาว 142 กิโลเมตร เชื่อมระหว่างกรุงจาการ์ตา ซึ่งตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของเกาะชวา กับเมืองบันดุง เมืองใหญ่อันดับ 4 ของประเทศ ตั้งอยู่ห่างจากกรุงจาการ์ตาลงมาทางตะวันออกเฉียงใต้ เมื่อวันพฤหัสบดี


ทั้งนี้ ผู้นำอินโดนีเซียกล่าวว่า เมื่อโครงการก่อสร้างดังกล่าวที่ดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2558 แล้วเสร็จ และเปิดใช้งานตามกำหนดภายในเดือน มิ.ย. 2566 ทางรถไฟสายนี้จะเป็นทางรถไฟความเร็วสูงเส้นทางแรกอย่างเป็นทางการ ของกลุ่มประเทศสมาชิกสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) และอินโดนีเซียหวังเป็นอย่างยิ่งว่า ทางรถไฟความเร็วสูงสายนี้ จะเป็นจุดเริ่มต้นของการเชื่อมโยงการคมนาคมและการขนส่งสินค้า ระหว่างสมาชิกอาเซียนด้วยกันต่อไป


แม้วิโดโดเชื่อมั่นว่า โครงการก่อสร้างซึ่งคืบหน้าไปแล้ว 88% จะสำเร็จลุล่วงตามแผนการ อย่างไรก็ตาม กลุ่มบริษัทรับเหมาผู้ดำเนินการก่อสร้าง ในนาม “พีที เคซีไอซี” ประสบกับปัญหางบประมาณ ที่ตอนนี้บานปลายจาก 2,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 75,740 ล้านบาท) เป็นมากกว่า 7,360 ล้านดอลลาร์สหรัฐแล้ว (ราว 278,723.20 ล้านบาท)


ขณะที่สื่อท้องถิ่นหลายแห่งของรัสเซียรายงานว่า ฝ่ายจีนซึ่งแน่นอนว่า เป็นผู้ลงทุนรายใหญ่ที่สุด ตั้งเป้างบประมาณของโครงการนี้ไว้ที่ประมาณ 1,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐเท่านั้น (ราว 37,880 ล้านบาท) ด้านเคซีไอซีคาดหวังการเจรจากับจีนในอนาคต เพื่อบริหารจัดการสถานการณ์ดังกล่าว ไม่ให้ส่งผลกระทบกับการดำเนินงานในภาพรวม ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการหนึ่งแถบ หนึ่งเส้นทาง (บีอาร์ไอ).

เครดิตภาพ : REUTERS