สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากเมืองเมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย เมื่อวันที่ 14 ต.ค. ว่า สำนักงานอุตุนิยมวิทยาแห่งชาติของออสเตรเลียรายงานว่า พื้นที่ส่วนใหญ่ในรัฐวิกตอเรีย รัฐนิวเซาท์เวลส์ และพื้นที่ทางเหนือของรัฐแทสเมเนีย หรือเกาะแทสเมเนีย กำลังเผชิญกับสภาพอากาศเลวร้ายจากฝนที่ตกลงมาอย่างหนัก ตั้งแต่วันพุธที่ผ่านมา ในปริมาณที่มากกว่าค่าเฉลี่ยสูงสุดตลอดทั้งเดือน ต.ค.


สถานการณ์ดังกล่าวส่งผลให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำขังในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะแม่น้ำหลายสายในรัฐวิกตอเรีย ซึ่งสูงเกินขีดอันตราย กระตุ้นให้หน่วยงานท้องถิ่นหลายแห่งต้องสั่งให้ประชาชนอพยพ หนึ่งในนั้นคือ แม่น้ำโกลด์เบิร์น ห่างจากเมืองเมลเบิร์นซึ่งเป็นเมืองเอกของรัฐวิกตอเรีย ขึ้นไปทางเหนือประมาณ 100 กิโลเมตร มีระดับน้ำสูงกว่า 7.64 เมตร ซึ่งเป็นสถิติสูงสุด เมื่อปี 2517 แล้ว


ย้อนกลับไปเมื่อต้นเดือนนี้ สำนักงานอุตุนิยมวิทยาแห่งชาติของออสเตรเลีย รายงานปริมาณน้ำฝนสะสมที่เมืองซิดนีย์ นับตั้งแต่ต้นปีนี้ อยู่ที่มากกว่า 2,213 มิลลิเมตร ทำลายสถิติปริมาณน้ำฝนสะสม 2,194 มิลลิเมตร ที่วัดได้ในเมืองแห่งนี้ ตลอดทั้งปี 2493 ซึ่งนับเป็นครั้งแรกตั้งแต่มีการบันทึกสถิติอย่างเป็นทางการ เมื่อปี 2401 ซึ่งเมืองซิดนีย์ ที่เป็นเมืองใหญ่สุดของออสเตรเลีย วัดปริมาณน้ำฝนสะสมในพื้นที่ได้มากกว่า 2,200 มิลลิเมตร


ขณะเดียวกัน สำนักงานอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์พยากรณ์ด้วยว่า พื้นที่ส่วนใหญ่ของออสเตรเลีย จะเผชิญกับฝนตกหนักมากขึ้น จนกระทั่งหมดปีนี้ เนื่องจากเป็นผลของปรากฏการณ์ลานีญา และภาคตะวันออกของประเทศ ซึ่งเป็นสถานที่ตั้งของเมืองใหญ่หลายแห่ง รวมถึงเมืองซิดนีย์ จะได้รับผลกระทบมากที่สุด.

เครดิตภาพ : REUTERS