เมื่อวันที่ 15 ต.ค. ร.ต.อ.กิตติพงศ์ บุญเศรษฐ รอง สว.(สอบสวน) สน.เพชรเกษม รับแจ้งเหตุยิงกันตายภายในบ้านเลขที่ 6/1 หมู่บ้านสุขสำราญ ซอย 7 แขวงหลักสอง เขตบางแค กรุงเทพฯ จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ ก่อนไปตรวจสอบพร้อม พล.ต.ต.พงศ์อานันต์ คล้ายคลึง ผบก.น.9 พ.ต.อ.ธิติพงษ์ สียา ผกก.สส.บกน.9 พ.ต.อ.วิชิต ถิรขจรวงศ์ ผกก.สส.1 บก.สส.บช.น. พ.ต.อ.วิสิษฐ์ วัฒนพงษ์พิทักษ์ ผกก.สน.เพชรเกษม พ.ต.ท.สุนทร มาลาเวช รอง ผกก.สส.สน.เพชรเกษม พ.ต.ท.สยาม ชื่นครุฑ สว.สส.สน.เพชรเกษม เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน ตร. แพทย์นิติเวช โรงพยาบาลศิริราช และอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง

ที่เกิดเหตุเป็นทาวน์เฮาส์ 2 ชั้น บริเวณชั้น 1 กลางบ้าน พบศพนายพงศธร สีตะปัญญะ อายุ 22 ปี สภาพนอนหงายจมกองเลือดบนที่นอน มีบาดแผลถูกยิงด้วยกระสุนปืนที่ขมับซ้ายทะลุขวา ใกล้กันพบปลอกกระสุนปืนขนาด .380 ตกอยู่ 2 ปลอก ส่วนที่บริเวณหลังบ้านพบศพนายธานินทร์ สีตะปัญญะ อายุ 46 ปี อาชีพหัวหน้าช่างหมู่บ้าน ซึ่งเป็นพ่อของ นายพงศธร ศพแรก สภาพนอนหงายจมกองเลือด มีบาดแผลถูกยิงที่ขมับซ้ายกระสุนฝังใน ใกล้กันพบปลอกกระสุนขนาด .380 ตกอยู่ 1 ปลอก จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน

สอบสวน น.ส.ประภัสสร เศวตนัย อายุ 44 ปี ภรรยานายธานินทร์ ผู้ตาย ให้การปริ่มจะขาดใจว่า มือปืนรายนี้คือนายนที หรือเป้ พันธุมเสน อายุ 28 ปี ลูกเขยที่เคยข่มขู่ครอบครัวตนหลายครั้ง สาเหตุเกิดจาก นายนที ได้แอบคบกับลูกสาวตั้งแต่สมัยเรียน แต่นายนที มีพฤติกรรมเกี่ยวข้องกับยาเสพติด ตนจึงบอกให้เลิกคบกัน ทั้งคู่เลิกคบกันไปพักหนึ่ง แล้วกลับมาคบกันอีกครั้ง จนกระทั่งมีลูกชายด้วยกัน 1 คน ต่อมานายนที มาทำพิธีขมา แล้วแยกครอบครัวออกไปอยู่ด้วยกันที่บ้านพักภายในซอยเพชรเกษม 110 ก่อนห้ามลูกสาวไม่ให้กลับมาหาครอบครัวและห้ามโทรฯ หาด้วย เพราะคงแค้นที่คิดว่าเคยถูกครอบครัวถูกกีดกัน

น.ส.ประภัสสร กล่าวต่อว่า จนกระทั่งลูกสาวได้ตั้งท้องอีกคนอายุในครรภ์ราว 7 เดือน ช่วง 1 ปีหลังนี้ นายนที เคยโทรฯ มาข่มขู่ว่าจะฆ่ายกครัว โทรฯ มาบ่อยมาก จนกระทั่งตนได้อัดคลิปเสียงขณะพูดจาข่มขู่ไว้แล้วเอามาเป็นหลักฐานและนำไปแจ้งความไว้ที่ สน.เพชรเกษม เมื่อวันที่ 14 ส.ค. ที่ผ่านมา แต่ตำรวจก็ไม่ได้มีการดำเนินการใดๆ ตนทราบจากลูกสาวว่า นายนที ไม่ยอมทำมากินอะไรเลย ขนาดลูกสาวตนท้องจนจะคลอดยังต้องไปทำงานอยู่เลย และนายนที ได้แอบขโมยของมีค่าของครอบครัวเอาไปขาย หาเงินมาซื้อปืนจากทางอินเทอร์เน็ต

“ก่อนเกิดเหตุ ลูกสาวตนไลน์มาบอกว่า นายนที ออกจากบ้านมาแล้ว บอกจะไปยิงครอบครัวตนให้ตายยกครัว ขณะที่คุยไลน์กับลูกสาว ก็ได้ยินเสียงปืนดังขึ้น 2-3 นัด โดยนายนที ได้เปิดประตูเข้ามา เพราะลูกชายตนมักไม่ล็อกประตู ก่อนเข้ามายิงลูกชายตนขณะนอนหลับ ส่วนสามีตนก็กำลังจะเดินลงมาอาบน้ำที่ห้องน้ำชั้นล่าง เพื่อออกไปทำงาน พบกับนายนทีพอดี จึงถูกยิงตายตามไปอีกศพ ซึ่งตอนนั้นตนยังไม่รู้ว่าสามีตนถูกยิง ยังตะโกนบอกสามีเลยว่า ให้โทรศัพท์แจ้งตำรวจ” น.ส.ประภัสสร กล่าว

น.ส.ประภัสสร กล่าวต่ออีกว่า จากนั้นนายนที ก็ได้วิ่งขึ้นมาที่ห้องนอนตน ตนรีบวิ่งหนีเข้าห้องแล้วล็อกประตู นายนที จึงได้พยายามพังประตูเข้ามาในห้องหวังฆ่าให้ตายยกครัว แต่ไม่สามารถเข้ามาได้ จึงยิงปืนใส่ประตูหลายนัด ตนจึงรีบหนีเข้าไปหลบอยู่ในห้องน้ำ แล้วโทรศัพท์บอกเพื่อนให้รีบโทรศัพท์แจ้งตำรวจให้ด้วย ก่อนที่นายนที จะขี่รถ จยย. ออกไป ผ่านไปสักพัก ลูกสาวตนโทรฯ กลับมาหาแจ้งว่า ให้ระวังตัวด้วย เพราะนายนที ย้อนกลับเติมกระสุนที่บ้านไปหลายลูก จะย้อนกลับมายิงให้ตายยกครัว แล้วก็ขี่รถ จยย. ออกจากบ้านไปแล้ว

จากการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดในซอยที่เกิดเหตุทำให้ทราบว่า นายนที ขี่รถ จยย.ฮอนด้า เวฟ สี เทา เบาะแดง ทะเบียน 3ขก 7569 กรุงเทพมหานคร มาจอดไว้หน้าปากซอย 7 ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 200 เมตร เพื่อไม่ให้คนในบ้านได้ยินเสียงแล้วเดินมาก่อเหตุ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดีอย่างเร่งด่วนแล้ว.