จากกรณีบุคลากรทางการแพทย์​ รพ.ภูมิพลอดุลยเดช ออกมาระบายความในใจหลังไม่มีชื่อได้รับวัคซีนไฟเซอร์ ทั้งๆ​ ที่สวม​ PPE ดูแลผู้ป่วยโควิด แถม​ รพ.กลับจัดให้คนที่ไม่เคยแม้เจอคนไข้ หรือสวมชุด PPE ทำงาน ไม่ทำตามเกณฑ์สาธารณสุข จนกลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์บนโลกออนไลน์ ทำให้​ พล.อ.ท.ฐานัตถ์ จันทร์อำไพ เจ้ากรมกิจการพลเรือนทหารอากาศ ในฐานะโฆษกกองทัพอากาศ ออกมายืนยันว่า ไม่มีการสวมสิทธิแต่อย่างใด พร้อมระบุว่าเป็นเรื่องเข้าใจคลาดเคลื่อน ทุกคนต้องได้รับการฉีดวัคซีนครบแน่นอน ส่วนพยาบาลที่รายชื่อตกหล่นจะได้รับการฉีดวัคซีนภายในวันเสาร์-อาทิตย์นี้ ตามข่าวที่นำเสนอไปแล้วนั้น

ทอ.ยันไม่มีสวมรอยฉก ‘ไฟเซอร์’ เข็ม3 ชี้เข้าใจคลาดเคลื่อน-ได้ฉีดแน่ทุกคน

จนท.พ้อหนักด่านหน้าไม่ได้ ‘ไฟเซอร์’ รพ.ตั้งเกณฑ์ใหม่-คนสวมรอยขโมยวัคซีน

ความคืบหน้าเมื่อวันที่ 14 ส.ค. นพ.ทศพร เสรีรักษ์ อดีต ส.ส.แพร่ พรรคเพื่อไทย และอดีตสมาชิกพรรคไทยรักษาชาติ เดินทางมาพบกลุ่มแพทย์พยาบาลเพื่อมวลชน นักศึกษา ประชาชน หลังได้รับเรื่องร้องเรียนการจัดการวัคซีนไฟเซอร์ สำหรับบุคลากรทางการแพทย์ และพยาบาลในโรงพยาบาล ที่​ รพ.ภูมิพลอดุลยเดช

นพ.ทศพร เปิดเผยว่า หลังได้รับเรื่องร้องเรียนจากบุคคลากรด่านหน้ากรณีมีความเคลือบแคลงสงสัยเรื่องการจัดสรรวัคซีนไฟเซอร์ให้บุคลากรทางการแพทย์ตั้งแต่ได้รับวัคซีนมาว่า ตอนแรกมีการประกาศรายชื่อมานั้นสามารถตรวจสอบมีการจัดทำรายชื่อ รายชื่อแรกออกมามีจำนวนคนหลายร้อยคน ระบุได้ว่า ทำงานหน่วยงานไหน มีวันเดือนปีเกิดระบุ แต่ปรากฏว่า กลับมีรายชื่อเพิ่มขึ้นมา ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่า บางรายชื่อที่เพิ่มมีการทำงานหน่วยงานอื่นๆ บางรายเกษียณไปแล้ว บางรายเป็นนักเรียนแพทย์ที่จบไปแล้ว แต่กลับมีรายชื่อโผล่มา

นพ.ทศพร กล่าวต่อว่า ตนคิดว่าพนักงานทุกคนใน​ รพ.ควรได้รับวัคซีนทั้งหมด โดยเฉพาะบุคลากรด่านหน้าควรได้รับวัคซีนก่อน นอกจากนี้ อยากให้ทุก รพ.จัดสรรวัคซีนให้โปร่งใส่ เช่น ให้ตัวแทนแต่ละแผนกใน​ รพ.มาหารือการจัดสรรวัคซีนให้เกิดความโปร่งใสไม่ใช่การงุบงิบทำหรือมีบุคคลวีวีไอพี ยังมีอีกหลาย​ รพ.มีลักษณะไม่ชอบมาพากลเช่นนี้ ทั้งนี้ วัคซีนที่ได้รับบริจาคมามี 1.5 ล้านโด๊ส แต่กลับจัดสรรไม่เพียงพอกับบุคลากรทางการแพทย์ที่ดูแลผู้ป่วยโควิด ซึ่งประชาชนทั่วไปต่างต้องการให้คุณหมอพยาบาลด่านหน้าได้รับวัคซีนก่อน แต่กลับกลายเป็นการเกิดปัญหาดังกล่าวขึ้นมา

ด้านตัวแทนบุคลากรทางการแพทย์รายหนึ่ง กล่าวว่า ผู้ที่ได้รับวัคซีนจะต้องเป็นบุคคลที่ทำงานในด่านหน้า คัดกรอง อยู่แผนกไอซียู ภายหลังมีการตั้งเกณฑ์ขึ้นมาใหม่ ทำให้พยาบาลด่านหน้าตัวจริงรายชื่อตกหล่นเกินกึ่งหนึ่ง โดยมีเงื่อนไขต่างๆ กีดกันออกไป เช่น ฉีดซิโนแวค 2 เข็มถึงได้ฉีด ฉีดเพียงแอสตราเซเนกา 1 เข็มไม่ได้ ทำให้วัคซีนเหลือ เลยตั้งข้อสงสัยว่า เอาวัคซีนให้ใคร ทั้งนี้ ที่ผ่านมาได้รับสอบถามไปยังผู้บังคับบัญชาแต่ไม่ได้รับคำตอบใครเป็นผู้จัดสรร อยากให้มีการตรวจสอบว่ารายชื่อที่ได้รับวัคซีนไฟเซอร์เป็นบุคคลากรด่านหน้าหรือไม่ หรือไม่ใช่บุคลากรที่นี่

ขณะที่ตัวแทนบุคลากรทางการแพทย์อีกราย กล่าวว่า พวกตนรวบรวมรายชื่อเป็นแผนก 100-200 คน จากทั้งหมด 800 คน คุณหมอ พยาบาล เวรเปล แม่บ้าน โดย​ รพ.ภูมิพล ได้รับการจัดสรร 1,680 โด๊ส จากที่เคยขอไป 3,000 โด๊ส จากการตรวจสอบบัญชีรายชื่อพบว่า มีทั้งหมด 1,611 รายชื่อ มีการฉีดให้ วันที่ 13-14 ส.ค. เมื่อตรวจสอบรายชื่อดังกล่าว กลับพบว่า มีความผิดปกติรายชื่อซ้ำ เปลี่ยนคำนำหน้าชื่อ และใช้สัญลักษณ์เป็นตัวเลขเป็นชื่อบุคคล 172 รายชื่อ แทนที่จะเรียงลำดับความสำคัญ ไปเรียงลำดับตามตัวอักษร ทำให้บุคลากรด่านหน้าไม่ได้รับการพิจารณา

ตัวแทนบุคลากรทางการแพทย์กล่าวด้วยว่า เหตุผลที่ออกมาเปิดเผย และพึ่งพา นพ.ทศพรนั้น เพราะต้องการให้สังคมรับรู้ว่าเกิดเรื่องแบบนี้จริง และไม่มีอะไรจะเสียแล้ว จึงยอมดับเครื่องชนแบบนี้ เพราะเป็นสิทธิที่ควรได้ โดยไม่ยอมฉีดวัคซีนที่ได้รับ ยอมจองวัคซีนทางเลือก ทั้งที่เป็นด้านหน้าผู้ดูแลผู้ป่วยโควิด.